กาฬสินธุ์แล้งหนาว! อุณหภูมิลดฮวบเหลือต่ำสุด 7 องศาฯ ส่วนเขื่อนลำปาวแล้งสุดรอบ 20 ปี ชาวบ้านต้องงมหอยขาย

กาฬสินธุ์แล้งหนาว! อุณหภูมิลดฮวบเหลือต่ำสุด 7 องศาฯ ส่วนเขื่อนลำปาวแล้งสุดรอบ 20 ปี ชาวบ้านต้องงมหอยขาย

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่ จ.กาฬสินธุ์ หลายพื้นที่อุณหภูมิยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยอยู่ที่ 14-19 องศาเซลเซียส ทำให้หลายพื้นที่ต้องเผชิญกับอากาศหนาวเย็น ประกอบกับมีลมแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ชนบท และอยู่ติดกับเชิงเขาภูพานอุณหภูมิลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวต้องหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาวออกมาสวมใส่ให้หนาๆ และหลายครัวเรือนต้องก่อไฟผิงสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายและคลายความหนาวเย็น นอกจากนี้โรงเรียนหลายแห่งยังจัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนทำความสะอาดบริเวณรอบโรงเรียน ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัวและสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายของนักเรียนอีกด้วย

ด้าน นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสภาพอากาศในปัจจุบันหลายพื้นที่อุณหภูมิลดต่ำลง มีอากาศหนาวเย็น และมีลมแรง ขอให้ประชาชนสวมเสื้อผ้าหนาๆ สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย และควรที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรดื่มสุราสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย หรือคลายหนาว เพราะเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากการดื่มสุราไม่ได้ช่วยให้คลายความหนาว และในทางการแพทย์ผลจากการดื่มสุรานั้นนอกจากจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังบั่นทอนสุขภาพ ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากการขับขี่ขณะเมาสุราอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่หลายจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดกาฬสินธุ์ในช่วงนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขขอให้ประชาชนอย่าประมาท การ์ดอย่าตก และปฏิบัติตามมาตรการสวมหน้ากาก หมั่นทำความสะอาดมือ เว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น ตรวจวัดอุณหภูมิ สแกนไทยชนะทุกครั้งที่ผ่านเข้า-ออกสถานที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสถานการณ์แล้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์เริ่มรุนแรง ลำพาน ที่เปรียบเหมือนเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงประชาชนหลายอำเภอเกิดการตื้นเขิน เกิดสันดอนเป็นแห่งๆ จนสามารถเดินข้ามได้ ชาวบ้านระบุเป็นภัยแล้งหนักสุดในรอบ 20 ปี ขณะเดียวกันกลับเป็นโอกาสดี กลายเป็นการสร้างวิกฤตงมหอยทรายไปประกอบอาหารในครัวเรือน และสร้างรายได้วันละ 1,000-2,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน พบว่าภัยแล้งเริ่มส่อเค้ารุนแรง โดยเฉพาะปริมาณน้ำในลำพานลำน้ำธรรมชาติเชื่อมต่อกับลำปาว ลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว เกิดการตื้นเขิน สันดอนโผล่ขึ้นเป็นแห่งๆ สามารถเดินข้ามฝั่งได้ โดยเฉพาะในเขต ต.นาเชือก ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ ต.ลำคลอง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่าเป็นความแห้งแล้งสุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว

Advertisement

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ติดกับแม่น้ำปาวหรือลำพาน กล่าวว่า ในฤดูฝนแม่น้ำสายดังกล่าวจะมีปริมาณน้ำที่สูงมาก บางช่วงเกือบติดกับท้องสะพานข้ามแม่น้ำ และบางช่วงมีความกว้าง 10-150 เมตร แต่ปัจจุบันที่เข้าสู่ฤดูแล้ง กลับลดลงและตื้นเขินเป็นอย่างมาก บางช่วงลึกเพียงหลังเท้า ความกว้างของร่องน้ำเพียง 1 เมตร สามารถเดินข้ามได้ง่าย

ชาวบ้านยังระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ปริมาณน้ำในลำปาวหรือลำพานลดลงดังกล่าว เกิดผลดีให้ชาวบ้านที่ว่างเว้นจากการทำนาได้พากันมาหาปู ปลา และงมหอยทรายเพื่อไปประกอบอาหารทานในครัวเรือน หรือหากได้จำนวนมากก็จะแบ่งขายในชุมชน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่หาได้ง่ายสุดและมีชุกชุมคือหอยทรายที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ซึ่งชาวบ้านจะใช้วิธีใช้มืองมหาและคัดแยกเอาตัวขนาดใหญ่ สมารถนำไปปรุงอาหารได้หลายเมนู เช่น ต้ม แกง ผัด แปรรูป หรือหากจะขายตัวเป็น กก.ละ 20 บาท บางคนหาจำหน่ายได้เงินวันละ 1,000-2,000 บาท ถือเป็นการพลิกวิกฤตลำปาวแล้งงมหอยทรายขายได้เป็นอย่างดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image