เปิดภาพพื้นที่กิจกรรมปลูกป่า หลังบิ๊กป้อม และฌอน ร่วมกิจกรรม เมื่อกลางปีก่อน ล่าสุดต้นไม้ยืนต้นตายใบแห้งเหี่ยว ด้าน ผอ.โครงการฯห้วยตึงเฒ่า ชี้ มีการขอใช้พื้นที่จัดงาน พร้อมแจ้งจะส่งคนมาดูแลเอง ส่วนปลัดอำเภอแม่ริม เร่งติดตามคดีฌอน ไลฟ์โค้ชชื่อดัง รับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่า
วันที่ 15 มกราคม 2564 หลังโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์ภาพพื้นที่ปลูกป่าในงาน Climate Festival @North เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ที่อ่างเก็บน้ำ ห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพรกร้าง ไร้การดูแล ต้นไม้ที่ปลูกบางต้นยืนต้นตายจนใบแห้งเหี่ยว แต่ก็มีบางต้นที่อดทนรอดและมีใบสีเขียว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจจุดที่จัดกิจกรรมปลูกป่า พบว่าอยู่ในพื้นที่ด้านหลังของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ใกล้กับหุ่นยักษ์คิงคอง โดยมีฉากหลังเป็นดอยสุเทพ โดยสภาพพื้นที่พบต้นไม้หลายต้นที่เคยปลูกไว้ยืนต้นตาย มีหญ้าแห้งคลุมโค่นต้นไว้ ส่วนรอบบริเวณก็เต็มไปด้วยหญ้าแห้งที่ขึ้นเต็มพื้นที่ ขาดการดูแลและรดน้ำ แต่ก็ยังมีต้นไม้บางต้นที่อดทนจนเติบโตมีใบสีเขียวงอกออกมาประมาณ 5 -6 ต้น จากแนวต้นไม้ที่ปลูกเป็นแถวประมาณ 70 – 80 ต้น
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริง จาก พ.อ.สุปกรณ์ เรือนสติ ผู้จัดการสำนักส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระบุว่า ผู้จัดงานมาขอใช้พื้นที่ และแจ้งว่าจะส่งคนมาดูแลเอง ทางโครงการฯจึงได้เข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ด้านนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ได้รับคำร้องเรียนจากชุดปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ระดับหมู่บ้าน ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยสุเทพ – ปุย ในห้วงตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2563 ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับนายฌอน บูรณะหิรัญ ที่ขอเรี่ยไรรับบริจาคเงิน ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่เชียงใหม่ ไม่เคยได้รับช่วยเหลือใดๆจากนายฌอน บูรณะหิรัญ ประกาศขอเรี่ยไรรับบริจาคไป ทางตนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก็พบว่ามียอดเงินบริจาคเข้าบัญชีเป็นจำนวนเงิน 1,475,274.79 บาท และยังพบว่ามีโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายณอน ด้วย
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ล่าสุดคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยคดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก สำหรับข้อกล่าวหามีทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.เรี่ยไรฯ และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ได้รับดำเนินการ และเรียกสอบพยานสำคัญที่เป็นผู้เสียหายโดยตรง ทั้งพนักงานที่ทำงานดับไฟป่า รวมถึงผู้บริจาคแล้ว
“ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว และกำลังรอการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะคดีนี้พื้นที่เสียหายคือจังหวัดเชียงใหม่ แต่มีการแจ้งความเอาผิดก่อนที่ สน.ปากเกร็ด และอีกหลายพื้่นที่ อาจจะมีการรวมคดีเข้าด้วยกันเพื่อสะดวกต่อการทำสำนวน เนื่องจากมีผู้บริจาคเงินทั่วประเทศ
