แม่เล่าลูกสาววัย 11 ถูกปู่ข่มขืน สุดทรมานก่อนสิ้นใจคาอ้อมกอด

แม่เล่าลูกสาววัย 11 ถูกปู่ข่มขืน สุดทรมานก่อนสิ้นใจคาอ้อมกอด

เมื่อวันที่ 15 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตที่บ้านพักเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยแม่และญาติระบุว่าถูก นายบี (นามสมมุติ) อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ข่มขืนช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2563 จนตั้งครรภ์นอกมดลูก ก่อนที่จะมีอาการแพ้และอาเจียนทรุดหนักจนเสียชีวิต ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.สหัสขันธ์ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีจนเด็กหญิงเสียชีวิต ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ หลังเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ ซึ่งยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไปก่อนวัยอันควร

นางบี (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ผู้เป็นแม่ของเด็กหญิง กล่าวว่า ตนและสามีแยกทางกันได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ได้สอบถามลูกสาวจนทราบว่าถูกปู่แท้ๆ ข่มขืน กระทั่งต่อมาช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 ได้พาไปตรวจร่างกายพบว่าลูกสาวตั้งครรภ์นอกมดลูก จากนั้นก็มีอาการแพ้ อาเจียน กินยาหรือข้าวเข้าไปก็จะอาเจียนออกมา เคยพาไปรักษาฉีดยาขับเลือดแล้วแต่ยังไม่ออก รกเป็นพิษ ประกอบกับร่างกายน้องยังเด็ก และไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาลูกสาวก็มีอาเจียน หนาวสั่น คล้ายมีอาการเจ็บปวดทรมาน ตนและญาติได้พากันออกมาดู แต่ยังไม่ทันได้นำตัวส่งโรงพยาบาลลูกสาวก็เสียชีวิตในอ้อมกอดของตนเอง ซึ่งรู้สึกเสียใจอย่างมาก และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อให้ลูกสาวตายตาหลับ เพราะหลังจากแจ้งความแล้วคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนศพลูกสาวนั้นตอนนี้ยังส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คาดว่าน่าจะมาถึงช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. และจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านต่อไป

ด้านตาของเด็กหญิงวัย 11 ปี กล่าวว่า ลูกสาวนั้นได้เลิกกับสามีมานานกว่า 5 ปีแล้ว ส่วนหลานสาวนั้นตน ซึ่งเป็นตากับยายเลี้ยง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับหลานสาว ซึ่งตนเสียใจมาก ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นบิดาของน้องเอทำงานอยู่ต่างจังหวัด จะส่งเงินค่าส่งเสียเลี้ยงดูมาที่ตนเดือนละประมาณ 3,000 บาท แต่ระยะหลังได้ส่งไปที่บ้านพ่อซึ่งเป็นบิดาน้องเอ ก่อนที่ต่อมาจะพบว่าหลานสาวมีอาการผิดสังเกต ร่างกายผ่ายผอมลง จึงได้พาไปตรวจร่างกายที่ รพ.สมเด็จ โดยไปรักษาหลายครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งส่งตัวเข้ารักษาพยาบาลที่ รพ.กาฬสินธุ์ และทราบในเวลาต่อมาว่าหลานถูกปู่กระทำชำเรา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก และไม่น่าจะเกิดกับหลานซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ทั้งนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่รีบจับกุมตัวมาดำเนินคดี เพื่อลงโทษให้ถึงที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image