ล่าแก๊งวัยรุ่นปางมะผ้า รุมทำร้ายตร.ขณะปฏิบัติหน้าที่ เอาขวดตีหัวเจ็บสาหัส

ผบช.ภ.จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผย เจ้าหน้าที่สภ.ปางมะผ้า จับกุม 6 วัยรุ่นที่ก่อเหตุรุมทำร้ายตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ ได้แล้ว 1 ในนั้นเป็นเยาวชนด้วย

วันนี้ (19 ม.ค.) เวลาประมาณ 07.00 น. พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการตำรจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะผ้า ร่วมกับ หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ถึง 6 รวม 5 คน ได้ที่บริเวณบ้านของกลุ่มผู้ต้องหา หมู่ 2 และ หมู่ 4  ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปางมะผ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ดำเนินคดีในข้อหา 1.ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธ และร่วมกระทำตั้งแต่สามคนขึ้นไป  2.ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและสาหัส 3.ร่วมกันทำให้เสียหาย เสื่อมค่าทรัพย์สิน 4.เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย

การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรปางมะผ้า นำโดย ร.ต.อ.เกรียงไกร วัน ได้เข้าตรวจสอบเหตุวัยรุ่นจับกลุ่มส่งเสียงดังที่หน้าตลาด อ.ปางมะผ้า เมื่อไปถึงกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ตรงเข้ารุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 นาย มี 1.ร.ต.อ.เกรียงไกร วัน รองสารวัตรป้องกันปราบปรามปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจ บาดเจ็บศีรษะแตกจากถูกขว้างด้วยขวดเบียร์ แพทย์ลงความเห็นรักษาอาการ  21 วัน ถือว่าสาหัส  2 ส.ต.ท.สันติพงศ์ โพธิพฤกษ์  3 ส.ต.ต.อัครเดช ทองชัย  4 ส.ต.ท.อรรถวิทย์ วงศ์จันทร์  5 ส.ต.ท.ปวริศ อินต๊ะ ได้รับอันตรายแก่กาย

ต่อมา เมื่อวันที่ 10 มกราคม เวลา 00.35 น.ได้ติดตามจับกุม นายจำรัส เลาลี เป็นผู้ต้องหาที่ 1

จากนั้นใน วันที่ 18 มกราคม พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับ 2. นายธีรศักดิ์ ยี่ป๋า 3. นายณัฐวัศ สีลี้ 4. นายกมลศักดิ์ เลาหมู่ 5. นายจิรายุ เลาหมี่ 6. นายเอกชัย เลาลี
รวม 5 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย ที่ 2-6/2564 ตามลำดับ

Advertisement

ส่วนนายอิทธิพล เลาลี ผู้ต้องหาที่ 7 เป็นเยาวชน แยกดำเนินการ

ก่อนหน้านั้น เรื่องกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายตำรวจ ได้ถูกโพสต์ในสื่อโซเชียล จนแพร่หลาย โดยใช้ชื่อว่า “นักเลงชนเผ่า” จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายในสื่อออนไลน์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและแนะให้ตำรวจเอาผิดกับคนทำผิดอย่างเด็ดขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image