ราชบุรีสั่งหยุดร่อนทอง ผิด พ.ร.บ.แร่ เกรงแพร่โควิด

นายอำเภอเมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย อุตสาหกรรมจังหวัด ส.ส.ราชบุรี ลงพื้นที่ร่อนหาเศษทองคำ เบื้องต้นเตรียมสั่งปิดพื้นที่ควบคุมสูงสุด หวั่นแพร่ระบาดโควิด

วันที่ 25 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณคลองชลประทาน หมู่ที่ 5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งมีเขตติดต่อระหว่างพื้นที่ ต.คูบัว และ ต.อ่างทอง อ.เมือง มีชาวบ้านในพื้นที่เมืองราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมากต่างนำกระชอน กระทะ กะละมัง อุปกรณ์การร่อนหาเศษทองคำเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก หลังมีกระแสข่าวชาวบ้านคนหนึ่งพบเศษทองคำตกอยู่ในลำคลอง และนำไปให้ร้านทองตรวจพิสูจน์ ผลตรวจพิสูจน์ปรากฎว่าเป็นเศษทองคำจริง ๆ ส่งผลให้ข่าวแพร่สะพัดออกไปผ่านสื่อโชเชียลต่าง ๆ ทำให้มีประชาชนจำนวนมากแห่เดินทางเข้ามาร่อนหาเศษทองคำเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ดอนตะโก ได้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือแอลกอฮอล์ สมุดลงบันทึก โดยให้ชาวบ้านทุกคนที่จะเข้ามาร่อนหาทองคำ จะต้องตรวจคัดกรองเข้ม ตามมาตรการโควิด -19 เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง และป้องกัน เนื่องจากราชบุรี ถือเป็น 1 ใน 28 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด

Advertisement

นายกวิน ศรีสว่าง อายุ 66 ปี ชาวอัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า เดินทางมาจาก จ.สมุทรสงคราม เมื่อวานก็มา วันนี้มาตั้งแต่เช้ายังไม่ได้เลย ไม่ได้อะไรเลย จะเป็นเศษเหล็กก็ไม่เจอ ที่ผ่านมาเคยไปร่อนท่องที่อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เคยได้ทอง พอทราบอยู่ว่าเกร็ดทองเป็นอย่างไร พอมาตรงนี้แล้วไม่มีเกร็ดทองแบบนั้น คิดว่าไม่น่าจะมีทอง ถ้ามีจริงก็น่าจะเจอผงทองเล็ก ๆ ส่องประกายระยิบระยับอย่างที่บางสะพาน อย่างที่เขาเอามาให้ดูนั้นเห็นเป็นชิ้น ๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันซึ่งเขาก็ได้ไปแล้ว ไปเช็กดูก็พบว่าเป็นทองแท้ ส่วนตัวเองมา 2 วัน แล้วยังไม่ได้เลย โดยตัวเองอยู่กับบ้านไม่มีรายได้ จึงนำลูกหลานมาช่วยกันร่อนทองเผื่อมีรายได้ช่วงนี้

ต่อมานายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมือง พร้อมด้วย นายอานันทน์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัด นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ นายก อบต.คูบัว นายก อบต.ดอนตะโก เจ้าหน้าที่ชลประทาน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบดูการร่อนทองจุดดังกล่าว เพราะเนื่องจากมีชาวบ้านมารวมตัวกันจำนวนมากเกรงส่งผลถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19

Advertisement

นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมือง เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นห่วงมาก เพราะ อ.เมืองราชบุรี ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด – 19 ระลอกใหม่ และ จ.ราชบุรี อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด อยู่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรวมกลุ่มจำนวนมากเกิน 100 คน เป็นอันตรายต่อการควบคุมโรคนั้น คงให้ทำไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ข้ามจังหวัดอื่นมาก็ไม่ได้แล้ว ส่วนประเด็นนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบ 2 ประเด็น คือ วัตถุที่พบเป็นอะไร เมื่อเป็นสินแร่ จะเข้า พ.ร.บ.แร่ ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะให้รายละเอียด โดยจะมีข้อกฎหมายในการควบคุมดูแลว่าด้วยเรื่องนี้อยู่ ไม่ใช่อยู่ ๆ จะมีคนมาร่อนแร่ได้ จะมีกฎหมายต้องขออนุญาต นายก อบต. และตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อพบตัวแร่ก็ต้องจ่ายค่าภาคหลวง มีกฎหมายและมีโทษอยู่ แต่หากเป็นของเก่าก็จะเป็นการป้องกันควบคุมโรค แต่หากเข้ามาจำนวนมากคงเป็นอันตราย ประชาชนในบริเวณนี้จะกลัวโรค ถ้าติดโรคโควิด – 19 ระบาดอีกก็จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจกันอีก เท่าที่ทราบวัตถุที่พบก็เป็นทองรูปพรรณ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องสินแร่

จากการตรวจสอบพื้นที่ทางธรณีวิทยาพบว่าคลองสายน้ำเส้นนี้มาจากทางไหน จ.ราชบุรีมีการศึกษาวิจัยว่าไม่มีการพบสินแร่ทองเลย ถ้าเป็นเรื่องทองเก่า ทองโบราณ ตรงนี้เป็นเมืองเก่า เมื่อเกือบ 2 พันปีที่แล้ว คิดว่าของเหล่านั้นคงไม่เหลือแล้ว จึงขอตรวจสอบวิเคราะห์ให้ดี มาก็เสียเวลากัน ไม่เกิดประโยชน์ หลังจากนั้นจะมีหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติโดยเฉพาะเรื่องมาตรการป้องกันควบคุมโรค คนต่างจังหวัดจะเข้ามาไม่ได้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ

เบื้องต้นหากมีประชาชนเข้ามาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นคงจะต้องสั่งให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ควบคุม คงไม่ให้เข้ามาในสถานการณ์ภายใต้การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ด้านนายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า มีแผนที่ศักยภาพแร่ ซึ่งดูในแผนที่แล้วตรงนี้ไม่มีศักยภาพของแร่ทองคำที่พูดถึงในนี้เลย ในหลักการถ้ามีคนมาร่อนแร่ที่นี่ ก็จะมีกฎหมายปี2560 ว่า ผู้ใดประสงค์จะมาร่อนแร่ สินแร่ จะต้องไปขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อน ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติเช่น ต้องเป็นคนในพื้นที่ ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย โดยที่มีผู้ใหญ่บ้านรับรอง และเมื่อร่อนแร่ สินแร่ ไม่ใช่ทองคำรูปพรรณ จะต้องไปเสียค่าภาคหลวงในท้องถิ่นนั้นๆ หมายความว่า ท้องถิ่นจะเป็นคนกำกับดูแลทั้งหมด ไม่ใช่อยู่ดีๆใครก็มาร่อนแร่ได้ เป็นข้อกฎหมายในเบื้องต้น คาดว่าพื้นที่นี้ไม่น่าจะมีสินแร่ที่อยู่ในดิน ใต้น้ำ จุดดังกล่าว

ทางน้ำที่ไหลผ่านตรงนี้ได้แก่ ไหลจากทิศตะวันตกมาทางทิศตะวันออก ส่วนพื้นที่ศักยภาพทางแร่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นพื้นที่ศักยภาพทางแร่ ส่วนบริเวณใกล้เคียงจะเป็น แร่ดีบุก ถ่านหิน และแร่ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นต้นน้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ตรงนี้ จะอยู่แถวอ.สวนผึ้งทางด้านทิศตะวันตก

ส่วนการเกิดลักษณะแร่ทองคำสามารถทำเหมืองได้จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ เกิดจากแร่ที่เป็นจุดแข็ง และเกิดการชะล้างแร่ที่เป็นหินแข็งแล้วไหลมาทางน้ำต่างๆ ซึ่งการเกิดแร่จะมีอยู่ 2 ชนิดนี้ แต่ถ้าดู ณ ตอนนี้ ถ้าแหล่งแร่ที่เจอน่าจะเป็นลักษณะที่ 2 คือ เกิดจากการชะล้างจากหินแข็งด้านบนแล้วไหลลงมาเรื่อย ๆ แต่เมื่อดูภูมิประเทศแถบนี้พบว่ามีเขื่อนคลองชลประทานกั้นเป็นช่วงๆ ค่อนข้างยากที่จะเกิดลักษณะแบบนี้ กรณีเมื่อชาวบ้านไปพบทองนั้นคงต้องไปแสวงหาข้อเท็จจริงกันอีกที แต่จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนนั้น เส้นทางปรากฏพื้นที่ไม่มีประวัติพบเจอแร่มาก่อน จึงสันนิษฐานว่าคงจะไม่ใช่แร่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่ศักยภาพแหล่งแร่ทองคำ ส่วนทองที่พบเห็นนี้มาจากไหนนั้น คงต้องให้เจ้าหน้าที่ไปสืบหาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image