| ที่มา | สกู๊ปหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ใน จังหวัดสมุทรสาคร มีพื้นที่สีแดงเข้มข้นอยู่ที่ ตลาดกลางกุ้ง ต่อมาจังหวัดสมุทรสาครประกาศปิดเป็นพื้นที่ควบคุมเด็ดขาดมาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ความหวังในขณะนี้ของแรงงานข้ามชาติที่พักอาศัยและทำงานในตลาดกลางกุ้ง รวมถึงบรรดาพ่อค้าแม่ค้า คาดหวังว่าก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้ ตลาดกลางกุ้งจะกลับมาเปิดได้อีกครั้ง
หลังจากที่มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มก้อนสีขาวกลุ่มสุดท้ายจำนวน 1,217 คน ซึ่งไม่เคยติดเชื้อเลย แล้วผลออกมาว่าพบเพียงแค่ 113 รายเท่านั้น จนนำไปสู่กระบวนการทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบตลาดกลางกุ้งเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งบริเวณส่วนนอก และส่วนในหอพัก เพื่อเตรียมพร้อมที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครจะประกาศให้เปิดตลาดกลางกุ้งได้
ความชัดเจนในเรื่องนี้ นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงว่า สำหรับแนวทางของรัฐที่จะเปิดให้ค้าขายของตลาดกลางกุ้งนั้น มีการรื้อลวดหนามออกเพื่อทำกิจกรรม “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์” แต่ยังไม่มั่นใจว่าสามารถเปิดได้หรือไม่ เพราะยังต้องรอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครต่อไปด้วย
ขณะที่ ธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระบุถึงความเป็นไปได้ในการปลดล็อกตลาดกลางกุ้งว่า ขณะนี้การตรวจเชิงรุกในตลาดกลางกุ้งเป็นรอบสุดท้ายแล้วจำนวน 1,217 ราย ผลที่ออกมา พบเชื้อ 113 ราย ถูกแยกออกมาไว้ที่ศูนย์ห่วงใยคนสาครแล้ว จึงเท่ากับว่าในส่วนที่เหลือน่าจะไม่มีคนป่วยอีก ถือว่าพื้นที่ตลาดกลางกุ้งสะอาดปลอดเชื้อแล้ว แต่ต้องดูว่าตลาดกลางกุ้งมีความพร้อมมากน้อยเพียงใด ไม่ใช่แค่เรื่องผู้ติดเชื้อหรือผู้ไม่ติดเชื้อ ความพร้อมก็คือทางผู้บริหารตลาดกลางกุ้ง จะสามารถที่กำหนดมาตรการเว้นระยะห่างอย่างไร มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโควิดแบบไหน การเปลี่ยนแปลงของการซื้อขาย จะต้องทำอย่างไร อันนี้จะต้องเป็นผู้ประกอบการทุกรายจะต้องหารือร่วมกัน และแจ้งทางจังหวัด และจังหวัดจะได้จัดทำแผนการเพื่อให้ความเห็นชอบ ในการเปิดตลาดกลางกุ้งเพื่อการค้าขายต่อไป
“ส่วนขั้นตอนต่อไปในการเปิดตลาดกลางกุ้งทางจังหวัดได้มีการหารือกับทางคณะกรรมการโรคติดต่อ เพราะทางการแพทย์เราเชื่อมั่นว่าในตลาดกลางกุ้งปลอดเชื้อแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไม่มั่นใจในมาตรการของผู้ประกอบการ ซึ่งจะต้องหารือกับผู้ประกอบการก่อนว่าตกลงวิธีการจะทำอย่างไรได้บ้าง
“เช่น การนัดคิวมารับของ หรือการโทรศัพท์ หรือการชำระเงินแบบคิวอาร์โค้ด โดยไม่ต้องสัมผัส จะต้องมีกระบวนการแบบนี้ โดยเป็นกระบวนการทั่วๆ ไป แต่ตลาดกลางกุ้งน่าจะพิเศษอย่างหนึ่ง คือ 1.ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการค้าขาย 2.เกิดความสะอาดในทุกกระบวนการ และ 3.ต้องไม่แออัดทั้งพื้นที่การค้าขายและที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าว ต้องให้ความร่วมมือกัน” รองผู้ว่าฯสมุทรสาครอธิบาย
“ธีรพัฒน์” ระบุด้วยว่า ความชัดเจนในเรื่องตลาดกลางกุ้ง จะเปิดได้หรือไม่ภายในสิ้นเดือนนี้ ขอนำเรียนว่า ทางจังหวัดสมุทรสาครได้พยายามให้ดีที่สุดที่จะทำให้เกิดการผ่อนคลายเพราะการแก้ไขปัญหาโควิดต้องควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าขายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้ามาตรการดีเยี่ยมยอดแล้ว สามารถทำให้คนเว้นระยะห่างกันได้ โดยไม่สัมผัสกันโดยตรง อันนี้ถือว่าดีมาก เพราะในกระบวนการสาธารณสุข ถือว่าตลาดกุ้งสะอาดแล้ว ส่วนในความวิตกกังวลเรื่องแรงงานอีกกว่า 1,000 ราย ที่ไม่พบเชื้อ ในจำนวน 1,217 รายนั้น เรื่องนี้ต้องบอกกว่ากลุ่มคนที่เหลือเหล่านี้โอกาสที่จะรับเชื้อแล้วเกิดการระบาดเป็นไปได้ยากแล้ว เพราะที่ผ่านมากว่า 1 เดือน แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีการป้องกันตนเองดีมากแค่ไหน
ในเชิงการแพทย์แล้วในส่วนที่เหลือนี้ ไม่น่ากลัวแล้วด้วยเพราะ 1.โดยหลักธรรมชาติทุกคนต้องป้องกันตนเองอยู่แล้ว 2.บุคคลเหล่านี้อยู่ในนั้นไม่ได้ออกไปไหนเลยเป็นระยะเวลาเดือนครึ่ง ถ้าโดยหลักการเหมือนกับควอรันทีนมา 2-3 รอบ ไม่น่าจะมีเชื้อแล้ว ยกเว้นว่าเช่น พอเปิดตลาดกลางกุ้ง ก็ไปจุดโน้นจุดนี้ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับตลาดกลางกุ้งมันเกี่ยวกับการเดินทางส่วนบุคคล
“วันนี้ถ้าตลาดกลางกุ้งมีความพร้อม 3 ด้าน คือ คนพร้อมที่ปฏิบัติตนให้มีสุขอนามัยที่ดี ระบบมาตรการภายในตลาดพร้อม และพื้นที่กับที่พักอาศัยพร้อมตามระบบสาธารณสุขแล้ว ก็สามารถเปิดตลาดกลางกุ้งได้อย่างรวดเร็วหรือภายในสิ้นเดือนนี้ แต่ถ้ายังไม่พร้อมในบางส่วน ก็จะต้องมีการพิจารณาหารือเพื่อวางแนวทางการปฏิบัติกันเป็นลำดับขั้นต่อไป” ธีรพัฒน์กล่าวทิ้งท้าย
เหล่านี้คือเงื่อนไขสำคัญที่จะปลดล็อกตลาดกลางกุ้ง
