สองผัว-เมีย สลด รถซื้อสด จู่ๆไฟแนนซ์มายึด ต้องเดินกลับ ที่แท้ เต็นท์รถแสบแอบไปจำนอง

บุรีรัมย์ ขับรถเงินสดจู่ไฟแนนซ์มายึดโร่แจ้งความร้อนถึงกู้ภัยอาสาไปส่งบ้าน

สองสามีภรรยาซื้อรถเงินสดจากเต็นท์มือสอง ขับสบายใจไร้งวดมาปีกว่า สุดท้ายถูกไฟแนนซ์ยึดกลางทาง เข้าแจ้งตำรวจให้จับเจ้าของเต็นท์มาดำเนินคดี เผยหลอกให้เอารถมาตรวจสภาพหลังการขาย ที่แท้แอบเอาไปเข้าไฟแนนซ์ ร้อนถึงกู้ภัย ต้องไปส่งกลับบ้านตัวเปล่า

วันที่ 27 มกราคม 2564 นายสมร สินชัยยา อายุ 52 และนางจร สินชัยยา อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา อยู่หมู่ 4 บ้านตาเตน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เดินทางมาแจ้งความต่อ พ.ต.ต. จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒน์ สว.(สอบสวน)สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

เพื่อให้เอาผิดกับนางสุธิดา ธีรสุวุวรรณ์ เจ้าของเต็นท์รถมือสองตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 (โชคชัย-เดชอุดม)ในเขต ต.นางรอง อ.นางรอง ซึ่งเป็นคนขายรถให้ในราคาเงินสด เพราะหลังจากซื้อไปแล้วมีบริษัทไฟแนนซ์ตามมายึดรถ คาดว่าน่าจะถูกหลอก

โดยนางจร เล่าว่า เมื่อประมาณปลายปี 2562 ตนได้ไปซื้อรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาดร้า แคบ สีน้ำตาล ทะเบียน บล 1763 นครราชสีมา จากเต็นท์รถแห่งนี้ ในราคา 150,000 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสด แต่นางสุธิดา ได้อ้างว่าทะเบียนรถอยู่กับลูกสาว นัดโอนกันในภายหลัง โดยได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายเอาไว้

Advertisement

จากนั้นตนก็มาติดตามเพื่อต้องการโอนรถเป็นประจำทุกเดือน เจ้าของเต็นท์ได้บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนครั้งหลังสุดอ้างว่า “ลูกสาวติดโควิด”มาไม่ได้ ต้องรอไปอีก ตนกับสามีไม่ว่าอะไร เพราะเห็นใจในช่วงโรคระบาด

ต่อมาเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของเต็นท์รถ ได้โทรศัพท์ตามให้เอารถไปตรวจสภาพ ระบุเป็นการบริการหลังการขาย ตนก็มาตามนัด จากนั้นเจ้าของเต็นท์ ได้ขับรถตนออกไปโดยไม่รู้ว่าไปไหน นานประมาณ 2 ชม.จึงขับรถมาส่งบอกว่า”ตรวจสภาพเรียบร้อยแล้ว”ตนจึงขับรถกลับบ้านแล้วเอาไปใช้งานตามปกติ

พอมาวันนี้( 27 มกราคม 2564) ขณะตนนั่งในรถจอดอยู่ที่การไฟฟ้านางรอง สามีลงไปจ่ายค่าไฟฟ้า ได้มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทไฟแนนท์มาแสดงตนยื่นเอกสารและบอกว่ารถคันนี้ค้างชำระงวดหลายเดือน จะต้องเอารถไปคืนบริษัท

ตนตกใจมากแทบช็อค เพราะซื้อเงินสด เมื่อสามีเดินออกมาจึงเจรจากันและพากันมาที่ สภ. นางรอง โดยเจ้าหน้าที่ไฟแนนท์นำเอกสารการจำนองรถให้ดู ว่ารถคันนี้นำไปเข้าไฟแนนท์เมื่อเดือน สิงหาคม 2562 และไม่ได้จ่ายค่างวด พร้อมยื่นเอกสารการขอรับรถคืน

นางจร เล่าด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจว่า ตนกับสามีอาชีพทำนา อุตสาห์เก็บหอมรอมริบ ไม่อยากจะเป็นหนี้ใคร หอบเงินที่เก็บได้มาซื้อรถเป็นเงินสด และรถคันนี้เป็นรถคันแรกของครอบครัว แต่สุดท้ายเหลือตีนเปล่า จึงอยากจะดำเนินคดีคู่กรณีจนถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากตำรวจรับแจ้งความแล้ว ได้เข้าไปตรวจสอบเต้นรถดังกล่าว พบเป็นเพิงเล็กๆ มีรถจอด 1 คัน มีบริการล้างอัดฉีด แต่ไม่พบเจ้าของเต็นท์

หลังจากบริษัทไฟแนนท์ ยึดเอารถไปแล้ว ทำให้สองสามีภรรยาไม่มีรถกลับบ้านเพราะหมดเวลาวิ่งของรถโดยสารประจำทาง หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จึงอาสาขับรถเอาสองสามีภรรยาไปส่งบ้าน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image