จับแล้ว! ผู้ต้องหาเผารถตำรวจหลบหนี โต้เสียงแข็งไม่ได้จุด ไม่รู้ไฟไหม้ได้อย่างไร

ตำรวจอุดรฯใช้เวลา 70 นาที ล่าพ่อค้ายาบ้าเผารถห้องขังที่หลบหนี ไปจนมุมอยู่ในท่อระบายน้ำ ปฏิเสธเสียงแข็งไม่ได้เผา ไม่รู้ไฟไหม้ได้อย่างไร

จากกรณีที่มีรายงานว่า คนร้ายก่อเหตุเผารถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะกำลังนำตัวจาก สภ.หนองแสง เพื่อไปศาลจังหวัดอุดรธานี เหตุเกิดใกล้แยกบ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นรถกระบะ ที่มีหลังคาสำหรับนั่งคุมตัว ถูกเผาจนไหม้วอดทั้งคัน

อ่านข่าว – ด่วน! ผู้ต้องหาเผารถตำรวจหลบหนี ขณะคุมตัวไปขึ้นศาล

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถคันดังกล่าว เป็นรถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง อุดรธานี นำผู้ต้องหา 4 คนมาฝากขังที่ศาล จ.อุดรธานี ซึ่งมีผู้ต้องหาหลบไป 1 คน โดยมีพ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งใน และนอกเครื่องแบบลงพื้นที่

ที่เกิดเหตุพบรถส่งผู้ต้องพา สภ.หนองแสง จอดอยู่ริมถนนมิตรภาพ ปากซอยราษฎร์บำรุง หันหน้าเข้าเมือง มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงไปทั่วคัน โดยมีรถดับของ ทต.บ้านจั่น 1 คัน ระดมฉีดน้ำจนดับรถเสียหายทั้งคัน และบริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ริมถนน เจ้าหยน้าที่ตำรวจจาก สภ.โนนสูง อ.เมือง อุดรธานี ควบคุมผู้ต้องหาไว้ 3 คน ข้อเสพยาบ้าคือ นายอนันตชัย ทำประชม อายุ 23 ปี , นายอนุชา ธุลลี อายุ 18 ปี ถูกใส่กุญแจมือไว้ด้วยกัน และนายเล็ก นามสมมุติ อายุ 17 ปี มีอาการเจ็บหน้าอกมีหน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาล และนำส่ง รพ.อุดรธานี

Advertisement

ส่วน ร.ต.อ.มนตรี สารพันธุ์ รอง สว.ทำหน้าที่ขับรถส่งผู้ต้องหา คันที่ถูกเพลิงไหม้ได้วิ่งติดตามจับกุม นายสมสมัย ไปพเนา อายุ 46 ปี ผู้ต้องหามียาเสพติดเพื่อจำหน่าย ของกลางยาบ้า 68 เม็ด และยาไอซ์ 3.37 กรัม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนีไป แจ้งตำหนิรูปพรรณหัวล้าน สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงวอร์มสีดำคาดน้ำเงิน โดยได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยราษฎรบำรุง ที่สามารถทะลุออกไปยังถนนบ้านคำกลิ้ง-บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ

Advertisement

โดยมี พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ฝอยกลาง ผกก.สภ.หนองแสง พร้อม ร.ต.อ.เจริญฤทธิ์ มีหินกอง รอง สว.ส.สภ.หนองแสง เจ้าของคดี และกำลังเดินทางมาสมทบ สอบสวนปากคำผู้ต้องหา 2 คน ระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเสพยาบ้ากับเพื่อน 3 คน ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.หนองแสง ต่อมานายสมสมัย ผู้ต้องหาคดีเสพและขายยาเสพติด ไม่รู้จักกันมาก่อน ถูกนำตัวมาขังไว้ที่เดียวกัน จนเช้าตำรวจได้นำตัวขึ้นรถ เพื่อเอามาฝากขังที่ศาล จึงขึ้นรถมาด้วยกัน 4 คน นายอนันตชัย ถูกใส่กุญแจมือติดกับนายสมสมัย นายอนุชาใส่กุญแจมือคนเดียว ส่วนนายเล็กไม่ได้ใส่กุญแจมือ

ผู้ต้องหา 2 คน ยืนยันว่านายสมสมัย มีไฟแช็กเพราะเห็นสูบบุหรี่ แต่ขณะที่นั่งรถมา ยืนยันว่าเห็นนายสมสมัย (ผู้ต้องหาที่หลบหนีจากรถ) ได้ใช้ไฟแช็กเผาที่ช่องแอร์ จนไฟลุกไหม้มีควันจำนวนมาก จึงเคาะกระจกบอก ร.ต.ต.มนตรี ที่ขับรถ เมื่อรถคุมตัวผู้ต้องหาจอดริมถนน เปิดประตูด้านหลังให้ออกมา นายเล็กที่มีอาการเจ็บหน้าอกจากตกต้นไม้ เกิดอาการแน่หน้าออกทรุดลงพื้น ส่วนนายสมสมัย โวยวายว่ากุญแจมือแน่น ตำรวจจึงคลายกุญแจให้ และอาศัยชุลมุนได้วิ่งหลบหนี โดย ร.ต.ต.มนตรี วิ่งตามไป

ร.ต.ต.มนตรี สารพันธุ์ รอง สว. ได้ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ พบกับ พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ฝอยกลาง ผกก.สภ.หนองแสง รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าปฏิบัติหน้าที่ขับรถมาส่งผู้ต้องจาก สภ.หนองแสง มาที่ศาลจังหวัดอุดรธานี โดยนั่งอยู่ด้านหน้าคนเดียว ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวด้านหลัง 4 คน พอรถขึ้นมาบนถนนมิตรภาพไม่นาน ผู้ต้องหาเคาะกระจกเรียก หันไปดูก็เห็นควันไฟ จึงจอดรถริมถนน ออกมาเปิดประตูให้ ผู้ต้องหาที่หลบหนีให้คลายกุญแจมือให้ เห็นอีกทีก็วิ่งหนีเข้าไปในซอย จึงวิ่งตามไปจนถึงถนนไปบ้านตาด ตัดสินใจย้อนกลับมาดูผู้ต้องที่เหลือ ยังโชคดีที่มีตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว

จนกระทั่งเวลา 14.45 น. หรือผ่านไป 1 ชม. 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี และ ภ.จว.อุดรธานี นำโดย พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี สามารถจับกุมนายสมสมัย ผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ในท่อระบายน้ำ ในคลองน้ำหลังร้านทำป้ายโฆษณา ถนนบ้านคำกลิ่ง-บ้านตาด โดยผู้จ้องหาได้ถอดเสื้อแผนยาวสีแดงออก เหลือเสื้อสีน้ำเงินใส่ด้านใน

โดยผู้ต้องหาคนดังกล่าว ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผารถ ไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่มีไฟแช็ก ไม่รู้ไฟไหม้ได้อย่างไร ตัดสินใจหลบหนีเพราะได้โอกาส และคิดถึงภรรยาที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด

พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะตรวจพื้นที่ตามปกติ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้รถควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง จึงรีบออกมาบัญชาการยังที่เกิดเหตุ เพราะว่าในรถคุมขังมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาด้วย 4 คน เบื้องต้นทราบจากผู้ต้องหา 3 คน ที่ไม่ได้หลบหนี ให้การว่าตัวนายสมสมัย ที่หลบหนีมีไฟแช็กติดตัวมาด้วย และเป็นผู้จุดไฟเผา ซึ่งจากคำให้การนี้ทางตำรวจจะต้องตรวจพิสูจน์ต่อไปว่า สาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากอะไร หลังจากนั้นเราได้ระดมกำลังตำรวจทุกชุด ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลบหนี จนทราบว่าได้หลบหนีซ่อนตัวที่ป่าด้านหลังร้านทำป้าย จงเข้าทำการจับกุม ควบคุมตัวไปสอบปากคำต่อไป หลังจากนั้นจะให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน ตรวจสอบรถยนต์และสอบปากคำผู้ต้องหาต่อไป

“แต่จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่มีไฟแช็กติดตัวมา แต่ข้อน่าสังเกตุผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่เป็นผู้ต้องหาคดีเสพ แต่คนที่หลบหนีเป็นคดีครอบครองยาบ้าและยาไอซ์เพื่อจำหน่าย และเคยถูกจำคุกข้อหาเสพมาก่อน และภรรยากำลังจะผ่าตัด จะเป็นเหตุจูงใจหรือไม่ คงต้องรอให้มีการสอบปากคำก่อน และรอผลตรวจของตำรวจพิสูจน์หลักฐานอีกที ซี่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหา หลบหนีจากการคุมขัง เพิ่มอีก ส่วนข้อหาอื่นรอผลสรุปอีกครั้ง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image