ผู้ว่าฯระนอง รับ สถานการณ์ชายแดน หลังรปห.เมียนมา ทำรอบส่งกลับ ผู้กักตัวชะงัก

ระนอง-ผู้ว่าฯ ประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยันการค้าชายแดนยังไม่ได้รับผลกระทบ การคุมเข้มชายแดนยังเหมือนเดิม แต่การส่งกลับผู้ต้องกักรอบต่อไปอาจชะงัก

จากเหตุการณ์การยึดอำนาจในประเทศเมียนมา ได้ส่งผลให้จังหวัดตามแนวชายแดนต้องมีการประเมินสถานการณ์และตั้งรับกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือส่งผลกระทบ โดยนายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนระนอง-เกาะสอง ประเทศเมียนมา

นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจทางการเมืองในประเทศเมียนมา เรามีการดำเนินการควบคุมสถานการณ์โควิดตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 โดยการค้าชายแดนส่งไปมาได้ แต่ประชาชนไม่สามารถข้ามเขตแดนได้มาจนถึงปัจจุบัน จนถึงวันนี้ก็ยังคงมาตรการอยู่เช่นเดิม ยืนยันว่า การส่งสินค้าชายแดนยังไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนการคุมเข้มตามแนวชายแดนนั้น เราคุมเข้มมาโดยตลอดตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด โดยได้มีการประสานข้อมูลระหว่างประเทศในระดับท้องถิ่นระนอง-เกาะสอง (TBC) ซึ่งหากมีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศเมียนมา การอพยพหนีภัยประชาชนชาวเมียนมาจะมีผลกับทางเหนือมากกว่า จังหวัดระนองเองซึ่งอยู่โซนใต้จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบ

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สิ่งที่จังหวัดระนองจะได้รับผลกระทบน่าจะเป็นเรื่องการส่งกลับผู้ต้องกักชาวเมียนมาในรอบถัด ซึ่งโชคดีที่ก่อนหน้านี้เราส่งกลับไป 2 ชุดราว 260 คนได้ผ่านแดนออกไปแล้วก่อนหน้าจะเกิดการยึดอำนาจในเมียนมาเพียง 2 วัน ในส่วนที่เหลือนั้น คงต้องมีการชะงักในการดำเนินการส่งกลับอย่างแน่นอน ในส่วนนโยบายให้ลงทะเบียนผู้ต้องกักสามารถทำงานได้บางอย่างนั้น ขณะนี้ทางแรงงานจังหวัดได้ทำงานเชิงรุก ด้วยการเข้าไปสำรวจความต้องการทำงานของผู้ต้องกัก ซึ่งพบว่ามีผู้ต้องกักที่ประสงค์จะทำงานไม่เกิน 20% และสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปคือการหานายจ้าง ซึ่งในขณะนี้ทางจังหวัดระนอง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้มีการประเมินสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดเป็นระยะๆด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image