จับผู้ต้องหาชิงสร้อยคอยายวัย 78 ปี ถึงหน้ารั้วบ้าน อ้างตกงานช่วงโควิด-ติดพนันบอล
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส.พร้อมกำลังสืบสวนร่วมกันจับกุมตัวนายสมยศ เทียมพัฒน์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 7 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก เงิน 15,000 บาท ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยทองคำหนัก 1 บาทของนางวัชรี เลิศมงคล อายุ 78 ปี อดีตรองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันยังเป็นอาจาร์สอนพิเศษที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เหตุเกิดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ใน ซอยงามวงศ์วาน 25 แยก 13 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 28 มกราคม 64 ที่ผ่านมา
โดยแจ้งข้อหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.48/64 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านน้องสาว ซอยอ่อนนุช 65 แยก 15 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุและตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายคือนายสมยศ เทียมพัฒน์ ได้หลบหนีไปบ้านน้องสาวที่ชุมชน อ่อนนุช 65 แยก 15 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังไปจับกุมตัวไว้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– โดนปล้นยันหน้าบ้าน! อาจารย์พิเศษ ม.เกษตร ผวา เจอโจรถือปืนขู่ บุกกระชากสร้อยทอง
จากการสอบถาม นายสมยศ เทียมพัฒน์ ผู้ต้องหา ทราบว่า ตนอาศัยอยู่กับน้องสาวที่เขตประเวศ ตนเคยทำงานเป็นลูกมือช่างเฟอร์นิเจอร์ ถูกให้ออกจากงานช่วงโควิด ไปสมัครงานก็ไม่มีใครรับเพราะว่าอายุเกิน จึงได้มาก่อเหตุครั้งแรกที่ซอยสามัคคี โดยขับรถ จยย.ตระเวนหาเหยื่อโดยเลือกคนชราและผู้หญิง วันเกิดเหตุขับรถมาสบโอกาสเห็นยายลงจากรถสวมสร้อยคอจึงวนรถกลับมาก่อเหตุโดยใช้ปืนปลอม ได้สร้อยไปขายได้เงิน 19,100 บาท ก่อนนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ พนันฟุตบอลและซื้อยารักษาตัวเองเนื่องจากป่วยเป็นโรคความดัน เบาหวาน และไต
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายสมยศ พบว่าเมื่อปี 2557 ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สน.ประชาชื่น ถูกจับกุมดำเนินคดี พ้นโทษออกมาวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 59 และออกมาก่อเหตุชิงทรัพย์อีกเมื่อกรกฎาคม 59 พื้นที่ สน.สุทธิสาร สน.ห้วยขวางและสน.วังทองหลาง แต่พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ผลัดฟ้องไม่ทันจึงต้องปล่อยตัวไม่สามารถดำเนินคดีได้ และก่อเหตุทรัพย์อีกมีหมายจับคดีชิงทรัพย์ สน.เตาปูน และ สภ.รัตนาธิเบศร์ จนมาถูกจับได้ในที่สุด