เผยหลักฐานเด็ด มัดตัว ‘ครูขอนแก่น’ สวมสิทธิชาวบ้าน ลงทะเบียนโครงการรัฐ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการควบคุมตัว ว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ ครูประจำชั้นโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ชาว ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ26 /2564 ลงวันที่ 5 ก.พ. 2564 ในข้อหาเอาไปเสีย หรือไว้ ซึ่งบัตรหรือใบรับรอง หรือใบแทนใบรับรองของผู้อื่น เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ว่า ว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ ถูกคุมขังในห้องควบคุมเพียงลำพัง โดยใช้ผืนเสื่อปิดที่ลูกกรงห้องขัง และนอนอยู่อย่างเงียบสงบ มีญาติพี่น้องและทนายความเดินทางเข้ามาเยี่ยม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรยามได้แนะนำให้เข้าเยี่ยมในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น คือช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.00-09.00 น. และช่วงเย็นเวลา 17.00-18.00 น.

อ่านข่าว : ‘ครูขอนแก่น’ เครียดหนัก ตร.สอบปากคำ ปมสวมสิทธิคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน ชี้ทำคนเดียว เพราะไม่ยาก

พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสงค์ ผกก.สภ.บ้านฝาง กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนครูฝน หรือนางบุหงา ดวงจันทร์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านโนนค้อ ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลป่าหวายนั่ง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นคนที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าแจกเงิน 200 บาทแล้วถ่ายเอารูปบัตรประชาชนชาวบ้านไป จนชาวบ้านถูกสวมสิทธิใน โครงการคนละครึ่ง และ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

พ.ต.อ.อิทธิพลกล่าวว่า ภายหลังการสอบสวน ได้แจ้งข้อหาร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งภายหลังการสอบสวนยังพบหลักฐานในโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมโยงกับการก่อเหตุและเชื่อมโยงกับครูภูผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านครูภูผาภูมิ และขอหมายจับครูภูผาภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงของตำรวจภธรภาค 4 ได้ทำการเข้าตรวจค้นและจับกุมครูภูผาภูมิได้ที่บ้านพักในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมหลักฐานทั้งที่เป็นเอกสารและหลักฐานทางอิเล็กทรอนิก์ จึงควบคุมตัวไปสอบสวน

Advertisement

พ.ต.อ.อิทธิพลกล่าวว่า จากการพูดคุย ครูคุยได้ทุกเรื่อง แต่ช่วงให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ครูภูผาภูมิให้การปฏิเสธ จึงควบคุมตัวคุมขังในห้องควบคุมดังกล่าว

ว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์


“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันลงพื้นที่พบปะทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ถูกสวมสิทธิว่าให้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่นำบัตรประชาชนของชาวบ้านไปใช้ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากก่อนที่ครูภูผาภูมิจะถูกจับกุมตัวได้นั้น ได้มีการเข้าไปเจรจากับชาวบ้าน เพื่อที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านที่ถูกสวมสิทธิ รายละ 1,000-2,000 บาท ทำให้ชาวบ้านแตกออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่ยังลังเลว่าจะได้เงินชดเชย อีกทั้งกลัวว่าตัวเองจะมีส่วนในการทำผิดกฎหมายเลยอยู่นิ่งๆ

“กับอีกฝ่ายที่ต้องการดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งหากชาวบ้านเข้าใจก็จะมีชาวบ้านมาแจ้งความเพิ่ม” พ.ต.อ.อิทธิพลกล่าว

Advertisement

พ.ต.อ.อิทธิพลกล่าวต่อว่า ในส่วนของความเสียหายของโครงการรัฐบาลทั้ง คนละครึ่ง และ เราเที่ยวด้วยกัน อยู่ระหว่างการรวบรวมของคณะทำงาน เพราะหลังจากตรวจค้นแล้ว หากพบความเชื่อมโยงใดๆ พนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกมาสอบสวน อีกทั้งในกรณีดังกล่าววนั้น ชาวบ้านคือคนที่ถูกสวมสิทธิ ส่วนผู้เสียหายคือเจ้าของโครงการและเจ้าของเงินทั้ง 2 โครงการ ซึ่งในกรณีดังกล่าว ตำรวจจะร่วมประชุมกับทางจังหวัดขอนแก่น เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานและมูลค่าความเสียหายทั้งหมดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

“ขณะนี้ครูภูผาภูมิก็ยังถูกคุมขังในห้องขัง เพราะยังไม่มีการส่งตัวฝากขังที่ศาล เนื่องจากเป็นวันหยุด และยังมีผู้เสียหายในกรณีเดียวกันกระจายในอำเภออื่นๆ อีกหลายราย และทยอยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกเช่นกัน” พ.ต.อ.อิทธิพลกล่าว

ด้าน นางสุภาพร สอนบุผผา อายุ 42 ปี ชาวบ้านโนนค้อ ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกสวมสิทธิ และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สืบสวนจับกุมว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังทราบว่าครูฝนถูกแจ้งข้อกล่าวหาและครูภูผาภูมิถูกจับกุมว่า รู้สึกโล่งใจที่คนทำผิดถูกจับกุม เพราะคนเป็นครูทำอะไรก็น่าจะรู้ผิดรู้ถูก อีกทั้งในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ครูภูผาภูมิยังเข้ามาพบชาวบ้าน โดยขอร้องให้ชาวบ้านเข้าใจ ไม่ติดใจ ไม่เอาเรื่อง ไม่แจ้งความ ไม่อยากมีปัญหา และจะจ่ายเงินชดเชยคนละ 1,000 บาทให้

นางสุภาพรกล่าวว่า โดยขณะพูดกับชาวบ้าน ครูภูผาภูมิไม่รู้ตัวว่ามีชาวบ้านอัดคลิปไว้ ฉะนั้น คนทำไม่ดีจะได้รับผลเช่นไรก็น่าจะรู้คำตอบ จึงอยากให้ชาวบ้านที่ถูกสวมสิทธิเข้าแจ้งความทุกคน ให้ตำรวจทำการสอบสวน และดำเนินคดีกับครูตามกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image