มอบเงินช่วยเหยื่อกราดยิงโคราช 4 ราย ‘น้องเนย’ บิ๊กไบค์ฮีโร่ ย้ำขอให้เป็นบทเรียน

มอบเงินช่วยเหยื่อกราดยิงโคราช 4 ราย ‘น้องเนย’ บิ๊กไบค์ฮีโร่ ย้ำขอให้เป็นบทเรียน อย่าเกิดเหตุรุนแรงอีก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางวันเพ็ญ อำพาส คลังจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันเป็นตัวแทนมอบเงินเยียวยาของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตามพระราชบัญญัติสงเคราะห์ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 ซึ่งทางกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้วว่า บุคคลทั้ง 4 ราย เข้าข่าย พลเมืองดีของสังคมในเหตุการณ์กราดยิง ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์2563 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต รวม 31 รายและได้รับบาดเจ็บ 58 ราย และในวันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์ดังกล่าว

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ที่ผ่านมา การช่วยเหลือทางจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการช่วยเหลือครบทุกรายแล้ว ส่วนการมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือนอกเหนือจากที่เคยช่วยเหลือไป โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้อาศัยตามพระราชบัญญัติสงเคราะห์ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 บุคคลที่ทำความดีให้แก่สังคม นอกจากได้รับการชื่นชมและเชิดชูคุณงามความดีแล้ว หากได้รับอันตรายจนสูญเสียอวัยวะ พิการ ทุพพลภาพจนไม่สามารถทำงานได้หรือถึงแก่ความตาย ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ราชการจึงมี พ.ร.บ. สงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ.2543 กำหนดให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยเป็นก้อนกรณีทุพพลภาพ ได้รับเงินดำรงชีพเป็นรายเดือนตลอดชีวิตอีกด้วย หรือกรณีถึงแก่ความตาย นอกจากจะได้รับเงินค่าพยาบาลก่อนถึงความตาย และเงินชดเชยแล้ว ยังมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพด้วย

ซึ่งบุคคลผู้มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือประชาชนทั่วไปกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ ช่วยเหลือราชการด้วยความสมัครใจ หรือทางราชการร้องขอโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จากปฏิบัติงานของชาติในระดับงานที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลเมืองดี เช่น การช่วยเหลือคนตกน้ำ ช่วยสกัดคนร้าย เป็นต้น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย หรือได้รับอันตรายถึงสูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานหรือ พิการทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย

Advertisement

ทั้งนี้ ในเหตุการณ์กราดยิง ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาตเจ็บ เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรณีเสียชีวิต จ่ายให้ทายาท เงินชดเชย 450,000 บาท เงินค่าทำศพ 45,000 บาท ประกอบด้วย

1. นายอำนาจ บุญเอื้อ (จ่ายวันที่ 27 มีนาคม 2563) ผู้เสียชีวิต มอบให้ทายาท นางกัญญารัตน์ บุญเอื้อ (ภรรยา) 150,000 บาท และ เด็กหญิงธีรดา บุญเอื้อ (บุตร) 300,000 บาท
2. นายอธิวัฒน์ พรมสุข (จ่ายวันที่ 27 มีนาคม 2563) มอบให้ทายาท นางสาวอนงค์ สมหวัง (มารดา) 450,000 บาท
3. สิบเอกมรา เลิศศิริ (จ่ายวันที่ 26 มกราคม 2563)มอบให้ทายาท นางกรรณิกร คือปแลนด์ (มารดา) 150,000 บาท เด็กชายวราวุฒิ เลิศศิริ (บุตร) 300,000 บาท

ส่วนกรณีทุพพลภาพขนาดหนัก จ่ายเงินชดเชย ให้กับ นายจิรัฐิติกาล นอบไทย (น้องเนย) จำนวน 520,000 บาท และเงินดำรงชีพรายเดือน เดือนละ 7,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป

Advertisement

ทั้งนี้ นายจิรัฐติกาล นอบไทย หรือน้องเนย อายุ 27 ปี คือหนุ่มบิ๊กไบค์ ที่ถูกจ่าคลั่งกราดยิงบริเวณหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ขณะกำลังเข้าไปทำงานที่ร้านภายในศูนย์การค้า และได้พบเห็นผู้บาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณหน้าห้างจึงเข้าไปช่วยเหลือ

โดย นายจิรัฐิติกาล กล่าวถึงบาดแผลที่เกิดจากวิถีกระสุนเข้าบริเวณท้องและแขนซ้าย ทำลายอวัยวะภายในช่องท้องและแขนเส้นเอ็นขาดแต่ต้องเสียไต 1 ข้าง และแขนไม่มีแรงเพราะเอ็นขาด การขับถ่ายต้องผ่านถุงพลาสติก ลำไส้อยู่นอกร่างกายได้อดทนและพยายามช่วยเหลือตนเองและฝึกทำกายภาพบำบัด จนร่างกายฟื้นกลับมาประมาณ 70 % ซึ่งแพทย์ได้นัดผ่าตัดเอาลำไส้เก็บเข้าท้องในเดือนเมษายนนี้ ล่าสุดน้องเนยยังไม่สามารถทำงานได้เพราะร่างกายไม่แข็งแรงแต่ช่วยเหลือตัวเอง ขับรถยนต์ไปทำกายภาพบำบัดทุกวันจันทร์ เพื่อไม่เป็นภาระของครอบครัว

“ฝากขอบคุณแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมถึงกำลังใจของพี่น้องชาวไทย ได้ช่วยรักษาจนกลับมาได้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอให้เป็นบทเรียนและเป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดในประเทศไทย” นายจิรัฐิติกาล ระบุ

ขณะที่ นายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ช่วยเหลือเยียวยาอย่างครอบคลุม และพร้อมติดตามให้การช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image