สุดจะทน! ยายร้องสื่อ ถูกโจรขึ้นบ้าน 14 ครั้งใน 3 ปี แทบหมดตัว แจ้งความคดีไม่คืบ

คุณยายสุดทนเข้าร้องเรียนสื่อมวลชนจังหวัดสระแก้ว ชี้ตลอด 3 ปี ถูกโจรขึ้นบ้านลักทรัพย์ 14 ครั้ง เกิดความเสียหายและมีผลต่อสุขภาพจิต แจ้งความกับตำรวจแต่คดีไม่คืบ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังหนึ่งใน หมู่ 4 ต.เบญจขร อ.คลองหาด ได้พบกับ น.ส.หอม โชคเจริญ อายุ 66 ปี และนางปิ่น ธรรมวงศ์ อายุ 88 ปี เป็นน้าสาวอยู่ด้วยกัน 2 คน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง มีรั้วรอบแต่ไม่แข็งแรงนัก พร้อมกับบอกกับผู้สื่อข่าวว่า โจรขึ้นบ้านในระยะเวลา 3 ปี 14 ครั้ง ลักสิ่งของหลายอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งเสื้อใน แถมยังปีนรั้วบ้าน เข้ามาช่วยตัวเองโชว์

โดยระบุอีกว่า น้องชายของตนต้องลงทุนติดกล้องวงจรปิดให้ ซื้อมือถือที่ถ่ายรูปคนร้าย เพื่อไว้แจ้งความดำเนินคดี เพราะไปแจ้งความแล้วไม่มีหลักฐาน ต้องนำเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ 600 บาท มาเสียค่าอินเตอร์เน็ตทุกเดือน ย้ำทุกวันนี้เดือดร้อนจริง ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ น.ส.หอม ได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2563 เมื่อเวลา 10.00 น. ว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ปี 2563 เวลา 19.00 น. ได้มีคนร้ายเข้ามาในบ้านเพื่อจะขโมยทรัพย์สินได้เกิดความเสียหายขึ้น เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีความปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของเราหรือไม่ผ่านมา 3 ปี ถูกโจรขึ้นบ้านรวม 14 ครั้ง สูญทรัพย์สินไป และเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2562 เวลา 20.00 น. ได้มีคนร้ายได้เข้ามาลักไก่ที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว และคนร้ายได้ทำลายข้าวของโดยครั้งนั้นไม่มีทรัพย์สินสูญหาย จึงไปแจ้งความ เกรงจะได้รับอันตรายกับชีวิตและทรัพย์สินดังกล่าว

Advertisement

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2563 เวลา 19.00 น. คนร้ายได้ปีนเข้ามาในบริเวณบ้าน เป็นครั้งที่ 14 ผู้แจ้งซึ่งกลัวคนร้ายจะเข้ามาทำให้ทรัพย์สินภายในบริเวณบ้านได้รับความเสียหาย และกลัวว่าคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายร่างกายและบุคคลในครอบครัว ได้แจ้งความกับตำรวจ พร้อมตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าทรัพย์สินที่สูญหายตามที่ถูกลักไปมีชุดชั้นใน เสื้อใน กางเกงใน

ต่อมาคนร้ายได้มาทำลายทรัพย์สินท่อประปาแตก ลักบันได จากนั้นคนร้ายเหิมเกริมหนักเข้ามาชสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองต่อหน้าผู้เสียหาย พอมาแจ้งตำรวจบอกไม่มีหลักฐานให้ไปหาหลักฐานเพิ่ม จึงได้นำเงินผู้สูงอายุที่เก็บสะสมไปชื้อโทรศัพท์ที่มีกล้องถ่ายภาพได้ และลงทุนติดตั้งเน็ตบ้านเดือนละหลายร้อยบ้าน เพื่อหาหลักฐานเอาผิดคนร้ายได้ จนล่าสุดได้คลิปจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายที่เข้ามาสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองข้างบ้านผู้เสียหายดังกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image