เมื่อวันที่ 11 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง.ผบ.ตร พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบ.ตร.ภ.5 เดินทางมาที่ จ.พะเยา ในวันนี้ตามนโยบายยุทธการพิทักษ์ล้านนา กวาดล้างยาเสพติด โดยให้ตำรวจทั่ว จ.พะเยา ระดมปล่อยแถวกวาดล้างตั้งแต่เวลาตี 5 ที่ผ่านมา จนเมื่อเวลา 07.00 น. พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผบก.ภ.จว.พะเยา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจาก สภ.ปง จ.พะเยา ว่า มีชายคลุ้มคลั่งไม่ยอมให้จับตัวตามหมายจับคดียาเสพติด
จึงเดินทางที่บ้านขุนกำลัง หมู่ 4 ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา แก่นจันทร์ รอง.ผบก.ภ.จว.พะเยา และ พ.ต.อ.วสวัตติ์ จันทร์ต๊ะฟั่น ผกก.สภ.ปง รวมทั้งชุด นปพ.จ.พะเยา ชุดสืบสวน สภ.ปง โดยผู้ต้องหารายนี้ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุทธิพจน์ แซ่ว่าง อายุ 41 ปี ชาว ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้ง โดยเหตุการณ์ตรึงเครียดกว่า 12 ชม. และไม่มีทีท่าว่าผู้ต้องหาจะมอบตัว
พ.ต.อ.วสวัตติ์กล่าวว่า หลังจาก สภ.ปง มีการปล่อยแถวกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายยุทธการพิทักษ์ล้านนาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วนั้น ทางชุดสืบสวน สภ.ปง พร้อมด้วยชุด นปพ.จ.พะเยา ได้เข้าค้นตามบ้านเป้าหมายต่างๆ ในพื้นที่ อ.ปง จนมาเจอบ้านของนายสุทธิพจน์ แซ่ว่าง ซึ่งมีความผิดตามหมายจับคดียาเสพติดด้วย โดยเจ้าตัวไม่มีการออกมามอบตัวแต่โดยดี นอกจากนี้ยังมีอาการเครียดอย่างชัดเจนและได้จับตัวลูกสาวเป็นตัวประกัน
พ.ต.อ.วสวัตติ์กล่าวว่า ตนและเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายช่วยกันเกลี้ยกล่อมเป็นเวลานาน จนเวลาได้ล่วงถึงช่วง 15.00 น. พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผบก.ภ.จว.พะเยา ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและได้พูดเกลี้ยกล่อมแต่ก็ไม่เป็นผล จนสุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด นปพ.จ.พะเยา กว่า 10 นาย จึงจำเป็นต้องเข้าชาร์จตัวคาบ้านเพราะผู้ต้องหาได้จับลูกสาวเป็นตัวประกัน
พ.ต.อ.วสวัตติ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ขว้างแก๊สน้ำตาเข้าในบ้านถึง 3 ลูก และชุด นปพ.จ.พะเยา ได้พังประตูหน้าบ้านเข้าไป แต่นายสุทธิพจน์กลับสู้ทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้มีดพร้ายาวขนาด 1 ฟุต โดยไม่เกรงกลัว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องถอยกลับมา แต่จู่ๆ ลูกสาวของนายสุทธิพจน์ได้วิ่งออกมาจากบ้าน เพราะทนแก๊สน้ำตาไม่ไหว ตำรวจชุด นปพ.จ.พะเยา จึงได้เข้าชาร์จเป็นครั้งที่ 2 แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้จุดถังแก๊สขนาด 14 กก.แล้วใช้เท้าถีบออกมาจากหน้าบ้าน จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดก่อน
พ.ต.อ.วสวัตติ์กล่าวว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รถน้ำของ อบต.ขุนควร ได้ระดมฉีดน้ำดับทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ถังแก๊สเกิดระเบิดขึ้นได้ จนเวลา 17.30 น. ผู้ต้องหาก็ยังไม่ออกมามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเตรียมการตรึงกำลังในการเฝ้าไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนี
พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า ในเหตุการณ์นี้ทางตำรวจ จ.พะเยา ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้กระทำเกิดกว่าเหตุแต่อย่างใด โดยทุกวิธีการที่ใช้นั้นได้นำมาจากการฝึกทั้งสิ้น ถึงแม้ทางผู้ต้องหาจะยั่วยุให้ตำรวจวิสามัญก็ตาม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้ตะโกนออกมาว่า “จะขอยอมตายมากกว่าจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง” ตนเองก็ได้อยู่ดูในเหตุการณ์จนถึงช่วงเย็น และได้สั่งการให้ชุดตำรวจอีก 3 โรงพักได้แก่ สภ.เชียงม่วน สภ.จุน และ สภ.เชียงคำ เตรียมนำกำลังมาสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ชุด นปพ.จ.พะเยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ปง ด้วย ซึ่งเหนื่อยล้ากับการรอจับผู้ต้องหารายนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ตนยังได้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายในการทำงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.30 น.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ใช้มีดพร้าที่ถือมาปาดคอตัวเอง แต่ไม่เข้า จึงนำมีดพร้าแทงเข้าท้องถึง 3 ครั้งจนไส้ทะลักออกมากองกับพื้น ผกก.สภ.ปง และเจ้าหน้าที่อีก 2 นาย จึงบุกเข้าชาร์จตัวอีกครั้ง ก่อนที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่าง จุด อ.ปง รีบนำตัวนายสุทธิพจน์ส่ง รพ.ปง อย่างเร่งด่วน
