ราชบุรี-เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบตู้เซฟบริจาค และพระพุทธรูปถูกทิ้งกลางทุ่ง หน้าวัดโสดาประดิษฐานราม
วันนี้ ( 12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.หญิง ภูษณิศา จันทรัชภ์ ร้อยเวรสภ.เมืองราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งพบตู้เซฟ 1 ใบ เหรียญสตางค์ ใบเลื่อยเหล็ก และพระพุทธรูปแตกหัก ถูกนำมาทิ้งอยู่บริเวณกลางสวน ทางเข้าเป็นถนนลูกรัง ห่างจากริมถนนสายราชบุรี – เบิกไพร ประมาณ 50 เมตร เยื้องหน้าวัดโสดาประดิษฐาราม หมู่ 3 ต.เขาแร้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี
ตรวจสอบพบว่า ตู้เซฟดังกล่าวอยู่ในสภาพด้านหน้าตู้ถูกเจาะเป็นรูโหว่ ใกล้กันพบมีดดาบมีฝัก 1 เล่ม และพระพุทธรูปจำนวน 3 องค์ ลักษณะถูกทุบทำลายจนแตกหักได้รับความเสียหาย ภาพหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า พระทั้งสามองค์ได้หายไปจากหิ้งพระภายในศาลาการเปรียญวัดโสดาประดิษฐานราม ที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุ โดยมีพระครูเกษมขันติคุณ เจ้าอาวาสวัดโสดาประดิษฐาราม ยืนยันว่า พระที่พบถูกทุบจนแตกหักนั้น ถูกขโมยไปจากวัด เป็นพระแก้วมรกตมณีโชติสวมชฎาสีทองเขียวปิดด้วยทองคำหน้าตัก 5 นิ้ว สูงประมาณ 5 นิ้ว จำนวน 1 องค์เช่าบูชามาในราคามูลค่าประมาณ 40,000 บาท และยังมีพระแก้วมรกตมณีโชติสีม่วง ราคาองค์ละ 5,000 บาท และพระแก้วมรกตมณีโชติสีทอง หน้าตัก 4 นิ้ว สูง 5 นิ้ว ราคา 5,000 บาท รวมเป็น 3 องค์ มูลค่ากว่า 50,000 บาท ถูกคนร้ายขโมยไป และนำไปทุบแตกจนได้รับความเสียหาย
ส่วนตู้เซฟนั้น ทราบว่า เป็นตู้บริจาคที่ทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งนำมาตั้งให้ประชาชนร่วมรับบริจาคเงินเป็นการสมทบทุนในการนำเงินไปช่วยเหลือผู้ป่วย ได้หายไปจากวัดหนองหอย ซึ่งอยู่บนยอดเขาตรงข้ามกับวัดโสดาประดิษฐานราม ต.เขาแร้ง ภายในตู้ไม่ทราบจำนวนเงินที่มีอยู่ แต่ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบมีเงินเหรียญบาท เหรียญ 5 เหรียญ 10 ตกอยู่ตามพื้นดิน และในตู้อีกจำนวนหนึ่ง คาดว่า คนร้ายสามารถเอาไปได้แค่เพียงเงินแบงค์ที่อยู่ในตู้ด้านใน
เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายทองย้อย ทรัพย์สิน อายุ 50 ปี ชาวบ้านรายหนึ่งที่ไปพบตู้เซฟให้การว่า ประมาณ 08.00 น.ได้ไปเก็บหินก้อนเล็กๆ ไปทำเป็นกระสุนของหนังสติ๊ก เพื่อไปเลี้ยงวัวทุกเช้า มาวันนี้ จึงมาพบตู้เซฟ และพระพุทธรูป สงสัย จึงขับรถจักรยานยนต์ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามดู จากสภาพลักษณะการงัดตู้เซฟคล้ายกับการใช้เหล็กแฉลงเจาะเข้าไปภายในจนสามารถใช้มือล้วงเอาทรัพย์สินภายในออกไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจลายนิ้วมือ และเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายที่คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน มาดำเนินคดีต่อไป
