จ่าหำ โต้ถูกพาดพิงคดียิงหมวดบอล ยันไม่เคยขัดแย้ง ชื่นชมเป็นคนดี

จ่าหำ โต้ถูกพาดพิงคดียิงหมวดบอล ยันไม่เคยขัดแย้ง ชื่นชมเป็นคนดี

จ่าหำ ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ กล้าสาบาน หลังถูกพาดพิงมีส่วนในคดียิงหมวดบอล ตายในค่าย โต้ยืนยันไม่เคยขัดแย้งรุนแรง ชื่นชมผู้ตายเป็นคนดี ยอมรับเคยเคลียร์ปัญหากับลูกน้องผู้ตาย แต่เข้าใจด้วยดี หวั่นปมเข้าใจผิดชู้สาว มากกกว่าประเด็นอื่น เชื่อคนร้ายเป็นคนในหน่วย รู้ความเคลื่อนไหว มั่นใจระดับผู้บังคับบัญชา ไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกี่ยวกับความคืบหน้าเกี่ยวกับการฆาตกรรมบุกยิง ร.ท. รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี นายทหารหัวหน้าหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ถูกยิงเสียชีวิตภายในค่ายทหาร ก่อนคนร้ายมีการหลบหนี อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ได้มี จ่าทหาร นายหนึ่ง ชื่อจ่าหำ ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกพาดพิง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี

โดยเปิดใจว่า เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ได้มีข่าวออกมาว่า ตนมีส่วนหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องคดี จึงต้องออกมาชี้แจง ทำความเข้าใจ และให้ความร่วมมือกับทางตำรวจในการที่จะสอบสวนทุกประเด็น และกล้าสาบานว่า ตนไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ตาย จนถึงขั้นรุนแรง โดยก่อนนี้ยอมรับเคยมีปัญหากับลูกน้อง ของหมวดบอลเกี่ยวกับปัญหามาจีบลูกสาว แต่เคลียร์กันจบด้วยดี และ หมวดบอล เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับเป็นคนอัธยาศัยดี เคยทำงานร่วมกัน ผู้ตาย ยังให้ความเคารพตนเสมอ ในถามในใจตนมีปมสงสัย เพียงเรื่องเดียว คือ เรื่องปัญหาปมชู้สาวที่อาจจะมีคนเข้าใจผิด คิดว่าผู้ตายไปเกี่ยวข้องเชิงชู้สาวกับใคร เพราะเป็นคนหน้าตาดี อัธยาศัยดี ซึ่งตนคิดว่าจะต้องมีการสอบสวนพยานแวดล้อม รวมถึงเช็คไทม์ไลน์ผู้ตาย ก่อนเสียเสียชีวิต น่าจะเป็นเบาะแส

จ่าหำยังกล่าวอีกว่า ในส่วนตัวตนมองว่าคดีที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาแน่นอน เพราะที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชามีเมตตากับลูกน้องทุกคน และเป็นคนที่พัฒนาหน่วย ไม่เอาเรื่องเล็กน้อยมาขัดแย้ง และให้อภัยทหารทุกคนเมื่อมีความผิด ส่วนมือปืนก่อเหตุ ตนมั่นใจว่า จะต้องเป็นคนในหน่วย ที่มีความขัดแย้งส่วนตัวสะสม ไม่ใช่บันดาลโทสะ และจากการสอบถามข้อมูลการก่อเหตุ มั่นใจว่า ไม่ต้องมีความชำนาญหรือเป็นนักรบจากหน่วยรบพิเศษมาก่อน ลงมือก่อเหตุ ก็สามารถทำได้ เพราะมีการยิงระยะประชิด ที่ผู้ตายไม่ตั้งตัว ที่สำคัญสำหรับผมเรื่องยิงผิดตัว ตนคิดว่าเป็นไปได้น้อย เพราะจากการสอบสวนของตำรวจ มีพยานยืนยันว่า ได้ยินเสียงมือปืนเรียกผู้ตายก่อนยิง และมีการรู้ช่องทางหลบหนี ในค่ายเป็นอย่างดี เชื่อว่ารู้ความเคลื่อนไหวผู้ตายตลอด อย่างก็ตาม ตนเป็นชายชาติทหาร มีเกียรติมีศักดิ์ศรีพอ และมีคุณธรรม ชอบช่วยเหลือสังคม ทุกคนรู้ดี คงไม่มาตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้แน่นอน หากมีปัญหาขัดแย้ง ต้องพูดคุยเคลียปัญหากันแบบชายชาติทหาร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image