หญิงบุกทวงเงินที่ยืม 20 ปีก่อน เกิดโต้เถียง ฉุนถูกบ่ายเบี่ยง อ้างจำผิดคน คว้ามีดแทง 1 แผล
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ลำปาง ได้รุดตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุหญิงทะเลาะวิวาทกัน และถึงขั้นใช้อาวุธมีดเข้าทำร้ายกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ม.2 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ใกล้กับตลาดชุมชนบ้านฟ่อน (ตลาดเช้า)
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบชาวบ้านอยู่ในจุดที่เกิดเหตุหลายคน และชี้ให้เจ้าหน้าที่รีบเข้าระงับเหตุ และช่วยเหลือ นางศรีรุ่ง อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับบาดเจ็บถูกมีดปอกผลไม้แทงเข้าที่ใต้ชายโครงด้านซ้าย มีบาดแผลยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีเลือกออกเล็กน้อย เนื่องจากไม่เข้าจุดสำคัญ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังชี้ให้ควบคุมตัวหญิงผมยาว สวมเสื้อสีเหลือง ที่ยืนพูดเอะอะโวยวายอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทราบชื่อ นางสาวเดือน อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเป็นคนก่อเหตุใช้มีดแทงหญิงเจ้าของบ้าน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า นางสาวเดือน ได้เดินมาหา นางศรีรุ่ง ที่บ้าน โดยมาทวงเงิน จำนวน 40,000 บาท ที่เคยยืมไปเมื่อ 20 ปี ก่อน แต่ นางศรีรุ่ง กลับปฎิเสธ และบอกว่า ตนเองไม่เคยยืมเงินไป และบอกว่า นางสาวเดือน คงจำคนผิด ทำให้ นางสาวเดือน เริ่มขึ้นเสียง เพื่อทวงเงิน จนเกิดพูดจาโต้เถียงกันเสียงดัง ทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ รีบออกมาดู
กระทั่งไม่นาน นางสาวเดือน ก็เดินไปเอามีดปอกผลไม้ยาว 1 คืบ เข้าจ้วงแทงข้างท้อง นางศรีรุ่ง ทันที ชาวบ้านที่เห็นจึงรีบเข้าไปห้าม และกั้นให้ 2 คน อยู่ห่างกัน โดยยังมีการพูดโต้เถียง และด่าทอกันไปมา จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ ท่ามกลางความตกตะลึงของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งทาง นางสาวเดือน บอกก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไป ว่า นางศรีรุ่ง ยืมเงินตนเองไปจริงในอดีต ตอนนี้เห็นว่า นางศรีรุ่ง มีฐานะมากขึ้น จึงเข้ามาทวงถามเงินที่หยิบยืมไป ไม่คิดว่า จะถูกบ่ายเบี่ยงแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร จึงนำตัว นางสาวเดือน ไปคุมขัง เพื่อสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เขลางค์นคร โดยได้นำอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุไปด้วย เพื่อประกอบสำนวนในคดี ซึ่งทางผู้ได้รับบาดเจ็บจะแจ้งความ เพื่อเอาเรื่อง และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
