เร่งสอบไทม์ไลน์จ่าหำ-แพทย์พยาบาลเพิ่ม ปมยิงหมวดบอลในค่าย

เร่งสอบไทม์ไลน์จ่าหำ-แพทย์พยาบาลเพิ่ม ปมยิงหมวดบอลในค่าย

ผู้การตำรวจเรียกจ่าหำ ทีมแพทย์พยาบาล สอบเพิ่มไทม์ไลน์เชื่อมโยงหาหลักฐานประกอบผลชันสูตร แกะรอยล่ามือสังหารหมวดบอลในค่ายทหาร พบปมปลอกกระสุนปืนหาย หลังชันสูตรพบหัวกระสุนขนาด 11 มม. เชื่อมือปืนมีการวางแผนทำลายหลักฐานเก็บปลอกกระสุน ตำรวจยังเร่งสอบพยานเพิ่ม ให้น้ำหนักคนในก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองนครพนม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมทีมสืบสวนสอบสวน คลี่คลายคดีเกี่ยวกับมือปืนบุกยิงสังหารโหด ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี ตำแหน่งหัวหน้าหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ภายในค่ายทหารใกล้บ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ล่าสุด ผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น พบหัวกระสุนปืน ขนาด .45 หรือ 11 มม. ฝังบริเวณใต้รักแร้ จำนวน 1 หัว จากจุดถูกยิงทั้งหมด 3 นัด บริเวณลำคอ 1 นัด และใต้รักแร้ขวาอีก 2 นัด คาดว่ากระสุนอีก 2 นัดทะลุ โดยทางตำรวจยังตั้งข้อสังเกตเนื่องจากไม่พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ

ล่าสุด ทาง พล.ต.ต.ธนชาติ พร้อมทีมพนักงานสอบสวนได้เชิญตัว จ.ส.อ.สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ อายุ 53 ปี หรือจ่าหำ ครูฝึกหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) และครูฝึกทหารใหม่และเยาวชน มทบ.210 ที่เคยมีปมขัดแย้งกับลูกน้องผู้ตายมาก่อนเพื่อสอบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยทางจ่าหำยังยืนยันช่วงเกิดเหตุมีไทม์ไลน์อยู่กับกลุ่มเพื่อนนอกค่าย และยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งรุนแรงกับผู้ตาย พร้อมยังชื่นชมว่ารู้จักผู้ตายดี มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน และกล้าสาบานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงให้ความร่วมมือตำรวจทุกอย่างในการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน นอกจากนี้ทางทีมสอบสวนยังได้เชิญทีมแพทย์ พยาบาล จำนวน 4-5 คน ที่เข้าทำการชันสูตรศพหลังเกิดเหตุเพื่อเก็บรายละเอียดและหาหลักฐานเชื่อมโยงประกอบการดำเนินคดี ตามล่าหาคนร้ายมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ทางตำรวจยังไม่ตัดทิ้งประเด็นปมชู้สาว ขัดแย้งเรื่องการทำงาน อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่ามีบุคคลในค่ายรู้เห็นและลงมือก่อเหตุมากกว่า 1 คน เพราะมีความชำนาญในการหลบหนีและรู้ช่องทาง รวมถึงความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรณีผลการชันสูตรพบหัวกระสุนปืน ขนาด .45 หรือ 11 มม. ฝังบริเวณใต้รักแร้ จำนวน 1 หัว จากจุดถูกยิงทั้งหมด 3 นัด บริเวณลำคอ 1 นัด และใต้รักแร้ขวาอีก 2 นัด คาดว่ากระสุนอีก 2 นัดทะลุ โดยทางตำรวจยังตั้งข้อสังเกตเนื่องจากไม่พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายผู้ก่อเหตุมีการวางแผนเตรียมการอย่างดี และใช้วิธีนำถุงสวมเก็บปลอกกระสุนขณะก่อเหตุยิง เพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน และจะต้องเป็นคนที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี ส่วนปมเรื่องยิงผิดตัวตำรวจไม่ให้น้ำหนัก เนื่องจากมีพยานบุคคลยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายมีการเรียกชื่อผู้หมวดบอลก่อนยิง อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนสรุปพยานหลักฐานประกอบผลชันสูตร เชื่อมโยงหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด มั่นใจในหลักฐานเพียงพอ โดยอยู่ระหว่างการทำงาน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image