กลุ่มราษฎรเดินทางถึง อ.สูงเนินแล้ว ‘ไผ่ ดาวดิน’ เผยมีคนแห่มาให้กำลังใจเพียบ อัดรัฐบาลให้คนแก่แห่ไปลงทะเบียนเราชนะ ไม่เป็นไปตามสิทธิของประชาชนในรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มราษฎรพร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่มพีเพิ่ลโก (PEOPLE GO) กว่า 100 คน รวมกลุ่มภายใต้ชื่อกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” เดินเท้าจากลานอนุสรณ์วีรชนคนโคราช ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร เพื่อขับไล่รัฐบาลและเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร 4 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปกักขัง และเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกต้องลาออกจากรัฐบาล, ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญและแก้รัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอจากประชาชน และให้ปฏิรูปสถาบัน
ล่าสุดกลุ่มราษฎร นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” และ ทราย เจริญปุระ ได้เดินทางออกจากที่พัก ร้านเจ๊อ๋อย ปากทางเข้าอ่างห้วยยาง ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปบนถนนมิตรภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะเดินจากโคราชเข้ากรุงเทพมหานคร ถึงทำเนียบรัฐบาล เป็นระยะทางกว่า 247 กิโลเมตร และจะเดินทางเฉลี่ยวันละ 15 กิโลเมตร ซึ่งมีการถือธงสีส้ม ข้อความเขียนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา และต้องไม่จับเพิ่ม” โบกไปตลอดเส้นทาง ล่าสุดได้เดินทางไปถึงบริเวณ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมาแล้ว
นายจตุภัทร์กล่าวว่า จากการเดินทางเมื่อวานนี้ (16 กุมภาพันธ์) วันแรก ได้รับการตอบรับจากประชาชนริมทางเป็นจำนวนมาก หลายคนมาปรบมือส่งเสียงให้กำลังใจ และนำน้ำ รวมทั้งขนมต่างๆ มามอบให้กับกลุ่มผู้ร่วมเดินทางตลอดเส้นทาง ไม่มีเสียงต่อต้านแต่อย่างใด บางคนก็มาร่วมเดินขบวนด้วยซ้ำ ซึ่งการเดินขบวนตามถนนเมื่อวานนี้ ได้มีการใช้เครื่องเสียงปราศรัยไปตลอดเส้นทางด้วย โดยเรื่องที่ปราศรัยวันแรกก็จะโฟกัสไปที่ประเด็นการเปิดให้ลงทะเบียนเราชนะ สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งพบว่ามีผู้สูงอายุหลายคน ต้องมาต่อคิวแออัดกัน ตากแดด ตากลม เพื่อรอลงทะเบียนด้วยความยากลำบาก ทั้งที่สิทธิในรัฐธรรมนูญ ก็ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน การที่รัฐจะนำเงินภาษีของประชาชนมาจ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ก็ต้องจ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่จะเลือกปฏิบัติให้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้เกิดภาพการแย่งกันลงทะเบียนเหมือนกับเป็นการไปขอทาน เพราะเขากลัวว่าจะไม่ได้รับสิทธิ ความเป็นคนไทยไม่ได้อยู่ที่การลงทะเบียน แต่อยู่ที่ความเป็นคนไทยตามกฎหมายซึ่งมีบัตรประชาชนระบุตัวตนไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงไม่เห็นด้วยกับรูปแบบการแจกเงินเยียวยาลักษณะนี้เลย
ส่วนการเดินทางในวันนี้ ก็จะเดินไปบนถนนมิตรภาพ เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ตามกำหนด เพราะเราไม่ได้เป็นนักกีฬา จึงต้องเดินไปในระยะนี้ ซึ่งเย็นนี้คาดว่าจะไปพักอยู่ที่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา และรุ่งเช้าวันถัดไปก็จะเดินทางกันต่อ