ตร.นครพนม ตามล่าคนใจบาป ถลกหนังหมาดำ วิ่งหนีไปตามบ้านเรือน สุดอนาถ

เร่งล่ามือชำแหละถลกหนังน้องหมา ปล่อยวิ่งหนี สุดอนาถ

วอชด็อกไทยแลนด์ ประสานตำรวจ ลงพื้นที่ ตามล่าคนใจบาป ชำแหละถลกหนังน้องหมา ปล่อยวิ่งหนีสุดอานาถ คนใจบุญพบเห็นประสานกู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลสัตว์ ล่าสุดน้องหมาสิ้นใจตายแล้ว เร่งล่าตัวหาทางเอาผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันทารุณกรรมสัตว์ คาดหวังชำแหละกิน แต่น้องหมาไม่ตายวิ่งหนี

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้า เกี่ยวกับ มีผู้ใจบุญออกมาโพสต์เฟสบุ๊ค ในชื่อ เฮียเนม ตัวแสบ เพื่อติดตามหาเจ้าของน้องหมา รวมถึง วอนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลช่วยเหลือ น้องหมาพันทาง สีดำ อายุ ประมาณ 3 ปี เพศเมีย ถูกคนใจบาปทำร้าย ใช้มีดเชือดถลกหนังจากแผ่นหลังต้นคอยาวถึงหาง เป็นแผลแหวะวะ สุดอนาถแก่ผู้พบเห็น แต่ยังไม่ตาย วิ่งหลบหนีไปตามบ้านเรือน และในถนนหมู่บ้านเอื้ออาทร ชุมชนบ้านน้อยใต้ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 จนกระทั่งมีผู้ใจบุญ นำภาพออกมาเผยแพร่ทางโซเชียล นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในตัวเมืองนครพนม

ภายหลังเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ทางด้าน นายนิทัศน์ ทองอร่าม เจ้าหน้าที่อาสา จากมูลนิธิ วอชด็อกไทยแลนด์ ประสานงานร่วมกับ นายสมชาย อนันตจารุตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองนครพนม และประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.ณัชวิชญ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เพื่อสนับสนุนกำลังตำรวจ สายตรวจ 191 ลงพื้นที่ ตรวจสอบ ร่วมกับ นางพรทิพย์ เพชรลิตร อายุ 53 ปี ประธานชุมชนบ้านเอื้ออาทรนครพนม ตรวจสอบติดตามหาเจ้าของ น้องหมา และเร่งติดตามหาคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่า เป็นการกระทำที่โหดร้ายเกินคน และเป็นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ทารุนกรรมสัตว์

ในครั้งนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พูดคุยสอบถาม ผู้พบเห็นเหตุการณ์ และคนที่นำภาพสุนัขถูกมีดกรีดถลกหนัง มาโพสต์หาเจ้าของ คือ นายคุณากร กะวะนิช อายุ 19 ปี เจ้าของเพจ เฮียเนม ตัวแสบ รวมถึง เฟสบุ๊คชื่อ Nutcharin Sokchueak ที่มีการโพสต์เหตุการณ์ หลังพบเห็นสภาพน้องหมา ถูกทำร้าย ในสภาพถูกถลกหนัง แต่ยังไม่ตาย มีอาการทรมาน วิ่งหลบหนี ไปตามถนน ในหมู่บ้าน จึงประสานเจ้าหน้าที่จากสมาคมกู้ภัยลำโขงเฟรนชิพนครพนม มาตรวจสอบช่วยเหลือนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ของ จ.นครพนม

Advertisement

ภายหลังผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพูดคุยกับผู้พบเห็นเหตุการณ์ภายในบ้านเอื้ออาทร รวมถึงตรวจสอบเอกสารพบหลักฐานตามบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน ของ สภ.เมืองนครพนม ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา เจ้าของเฟซบุ๊ค ชื่อ Nutcharin Sokchueak เจ้าของคือ น.ส.นุจรินทร์ โสกเชือก คือสาวใจบุญที่ขอเป็นผู้ดูแลรักษาน้องหมา พร้อมประสานเจ้าของหมาตัวจริงคือ น.ส.วรรณิษา ศรีวรขันธุ์ อายุ 34 ปี อาชีพขายข้าวแกง ได้ออกมาแสดงตัวยืนยันเป็นเจ้าของ โดยชื่อหมาดังกล่าว เดิมชื่อเจ้าฟรอย แต่สาวใจบุญได้มาตั้งชื่อใหม่ว่า น้องลำโขง ซึ่งเจ้าของได้ยินดีที่จะมอบสิทธิ์ให้สาวใจบุญ เป็นผู้ดูแลรักษา และเจ้าของหมาตัวจริงไม่ทราบสาเหตุที่มาของคนลงมือ โดยทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะมีคนใจบาปที่อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเอื้ออาทร พยายามจะทำร้ายหมานำไปเชือดเพื่อเปิบเป็นเมนู แต่คิดว่าหลังทำร้ายน้องหมาให้ตาย เพื่อชำแหละ แต่กับฟื้นพอเผลอวิ่งหนีออกมา แต่ไม่กล้าตามไปจับ ต่อมาทราบว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 น้องหมา เจ้าลำโขง ได้สิ้นใจตาย และทางสาวผู้ใจบุญได้นำไปประกอบพิธี นำซากไปเผาที่เตาเผาสุนัขวัดธาตุฝุ่น ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม

ด้านนาย กิติตพงษ์ พิลาบุตร อายุ 25 ปี อาสาสมัคร สมาคมวีอาร์กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิพ นครพนม ที่ช่วยเหลือน้องหมา เปิดเผยว่า หลังจากมีผู้พบเห็นน้องหมาบาดเจ็บถูกถลกหนัง ไปหลบตามบ้านเรือนชาวบ้าน ในหมู่บ้านเอื้ออาทร จึงมาช่วยเหลือส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์นครพนม โดยมีผู้ใจบุญจ่ายค่ารักษาให้ 1,000 บาท โดยพบว่าสภาพที่เจอ น้องมาพันทางสีดำ อายุประมาณ 2 -3 ปี มีร่องรอย คล้ายของมีคมมีด เชือดชำแหละถลกหนัง ตั้งแต่สันหลังต้นคอ ยาวถึงหาง แผ่ออก เห็นซี่โครง สุดอนาถ น่าสงสารมาก เชื่อว่า คนก่อเหตุจะพยายาม เชือดเพื่อนำไปปรุงเป็นเมนู แต่คิดว่าน้องหมายังไม่ตายจึงวิ่งหนี แต่คงไม่กล้าตาม ดูสภาพแล้สุดอนาถใจมาก สงสารน้องหมา

ส่วน นายนิทัศน์ ทองอร่าม เจ้าหน้าที่อาสา จากมูลนิธิ วอชด็อกไทยแลนด์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับทราบข้อมูลทางโซเชียล จึงลงพื้นที่ประสานทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.นครพนม และตำรวจในพื้นที่ สภ.เมืองนครพนม พร้อมแจ้งความร้องทุกข์ฐานความผิดเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก มีการถลกหนังหมา แต่ยังไม่ตาย และเชื่อว่าน้องหมาวิ่งหนีออกมาได้ โดยได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบถามพยานที่พบเห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่า เป็นน้องหมาในหมู่บ้าน และพบว่าเจ้าของเป็นใคร แต่ยังไม่อยู่บ้าน ซึ่งจะได้ มอบหมายให้ตำรวจ เชิญตัวไปสอบสวน และติดตามหาผู้กระทำผิด เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มนักเปิบเมนูหมา แต่พลาดน้องหมาวิ่งหนีออกมาได้ ซึ่งจะต้องมีการประสานตำรวจเร่งสอบสวนสืบสวน หาคนผิด มาดำเนินคดี เพราะเข้าข่ายฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ เร่งหาทางติดตามจับกุมคนก่อเหตุลงมือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image