“ผู้ว่าฯ โคราช” หย่าศึกข้อพิพาทร้านอาหารรุกอ่างเก็บน้ำซับประดู่ สั่งรื้อซุ้มออก (มีคลิป)

“ผู้ว่าฯ โคราช” หย่าศึกข้อพิพาทร้านอาหารรุกอ่างเก็บน้ำซับประดู่ สั่งรื้อซุ้มออก

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564ที่ห้องประชุมที่ทำการอ่างเก็บน้ำห้วยซับประดู่ ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแก้ไขปัญหา กรณีร้านอาหารบุกรุกพื้นที่เขตชลประทานบริเวณอ่างเก็บน้ำซับประดู่ โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายเมธี กาญจนสุนทร นายอำเภอสีคิ้ว, นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครรชสีมา, นางปุญชรัสมิ์ สินศักดิ์ชัย ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา, นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา, ตัวแทน อบต.มิตรภาพ, ตัวแทนกลุ่มเรารักษ์สีคิ้ว และผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณอ่างซับประดู่ ร่วมประชุมหารือในครั้งนี้

ทั้งนี้สืบเนื่องจากบริเวณอ่างเก็บน้ำซับประดู่ ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ทางชลประทานจังหวัดนครราชสีมา ใช้กักเก็บน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคและแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับคนในพื้นที่ อ.สีคิ้ว โดยมีพื้นที่กักเก็บน้ำ ประมาณ 15,600 ไร่ ซึ่งมีความจุกักเก็บน้ำได้ 27.66 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อมาได้มีผู้ร้องเรียนว่า มีผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมาก เข้าไปตั้งซุ้มสำหรับรับประทานอาหาร รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่กักเก็บน้ำของอ่างซับประดู่ ภายหลังจากที่ทางสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา ได้รับเรื่องร้องเรียน จึงได้มีการแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการ ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่เขตกักเก็บน้ำของอ่างซับประดู่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำพื้นที่เขตป่าไม้ 12 หลัง และมีผู้ประกอบการร้านอาหาร 21 ราย สร้างกระท่อมรุกล้ำเข้าไปในเขตชลประทาน ตลอดแนวฝั่งบ้าน มอจะบก หมู่ 6 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว เป็นระยะทางยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร แต่ผู้ประกอบการไม่ยินยอม

โดยอ้างว่าได้มีการทำกินกันมานานเกือบ 40 ปีแล้ว จนทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นแลนด์มารค์ของ อ.สีคิ้ว ในปัจจุบัน เมื่อผู้ประกอบการไม่ยอมรื้อถอนจึงเกิดเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหารและเจ้าหน้าที่รัฐ กระทั่งเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ทางสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา จึงได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปที่ สภ.สีคิ้ว ให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการเบื้องต้น จำนวน 16 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความเพิ่ม ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อมาประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในครั้งนี้

Advertisement

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่บริเวณอ่างซับประดู่ ปัจจุบันก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ อ.สีคิ้วไปแล้ว แต่การรุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่ชลประทาน ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 ดังนั้นตนเองจึงได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาไปว่า จะขอพบกันครึ่งทาง โดยทางจังหวัดจะร่วมกันบูรณาการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ร้านต่างๆ ต้องรื้อซุ้มที่รุกล้ำเขตชลประทานออกให้หมด ซึ่งทางราชการจะปรับปรุงบริเวณที่เคยเป็นซุ้มของร้านอาหารต่างๆ ให้เป็นซุ้มของส่วนกลาง นำโต๊ะและเต็นท์มากางให้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งรับประทานอาหารได้ ไม่มีร้านใดเป็นเจ้าของ เบื้องต้นตนเองได้อนุมัติงบประมาณให้ 100,000 บาท เพื่อดำเนินการไปก่อนให้เห็นผลภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นทางจังหวัดจะหางบมาเพิ่มให้ โดยจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนี้ด้วย นอกจากนี้ทางจังหวัดจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ เช่นอาจจะมีการจัดเทศกาลสงกรานต์ ให้ประชาชนสามารถมาเล่นสาดน้ำกันได้บริเวณนี้ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามา เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ในอนาคต ส่วนเรื่องคดีความนั้น ก็ขอให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ ไปทำหนังสือยินยอมที่จะรื้อถอนออกไปเสีย เพื่อที่จะให้คดีความสามารถยอมความกันได้ ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

นายไพรัตน์ แซ่อือ อายุ 49 ปี ตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหาร กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอมานั้น ทางผู้ประกอบการทั้งหมดก็รู้สึกพอใจ และรับได้ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพราะเรื่องนี้เป็นข้อพิพาทมานานแล้ว จนทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารรู้สึกเครียดมาก วันนี้จึงรู้สึกสบายใจขึ้นมากันทุกคน แต่การจะทำเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารส่วนกลาง ก็จะให้มีหลังคามุง เพื่อกันแดด กันฝนด้วย เพราะหากจะให้นักท่องเที่ยวไปนั่งตากแดด ตากฝน คงจะไม่มีใครอยากมาเที่ยวแน่นอน ซึ่งก็หวังว่าแนวทางนี้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณอ่างซับประดู่ ให้กับมาคึกคักได้อีกครั้ง.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image