รวบแม่เลี้ยงโหด สารภาพสิ้น ลูกเลี้ยง 1 ขวบดื้อเกินไป ลงมือจนดับ

รวบแม่เลี้ยงโหด สารภาพสิ้น ลูกเลี้ยง 1 ขวบดื้อเกินไป ลงมือจนดับ

จากกรณี ‘น้องต้นกล้า’ วัย 1 ขวบ ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ผลการชันสูตรระบุเด็กมีเลือดคั่งใต้ผิวหนังบริเวณศีรษะ และตามร่างกายมีร่องรอยเขียวช้ำจากการถูกกระทำซ้ำๆ มาต่อเนื่อง ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนผู้ต้องสงสัยพ่อของเด็กกับแม่เลี้ยง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พร้อมชุดสืบสวนนำหมายศาลจ.หลังสวน จับกุมน.ส.นันทิยา อายุ 30 ปี แม่เลี้ยงของเด็ก ในข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี บ้านเกิด และนายณรงค์ พลวิชิต อายุ 37 ปี พ่อแท้ๆ ของเด็กที่หลบหนีไปอยู่ด้วยกัน

ขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาสอบสวนที่สภ.ทุ่งตะโก น.ส.อาพาพอน อายุ 26 ปี แม่ของเด็ก และญาติ ๆ เกือบ 10 คนมาดักรอ น.ส.อาพาพอน ได้เดินเข้าไปตบหน้าของนายณรงค์ อย่าแรงจนหน้าหงาย พร้อมกับพูดว่า “เป็นพ่อแท้ๆ ทำไมปล่อยให้แม่เลี้ยงทำร้ายลูกจนตาย” ขณะที่ญาติๆ ก็รุ่มด่าสาปแช่งทั้งสองคนจนลั่นโรงพัก

Advertisement

น.ส.อาพาพอน เปิดเผยว่า หลังจากรู้ข่าวว่าตำรวจตามจับแม่เลี้ยงใจโหดได้พร้อมกับนายณรงค์ อดีตสามี จึงรีบเดินทางมากับญาติๆ เพื่อมาดูหน้า และคาดว่าอดีตสามีอาจรู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้แม่เลี้ยงทุบตีลูกจนตาย แล้วหลบหนีไปอยู่ด้วยกันที่ จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันเกิดเหตุ

พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า น.ส.นันทิยา แม่เลี้ยง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ทุบตีเด็กเกือบทุกวันจริง เนื่องจากเด็กที่ดื้อและซุกซน โดยวันเกิดเหตุตนได้ใช้ไม้แขวนเสื้อและใช้ฝ่ามือทุบตีตามตัว และตบศีรษะจนเด็กหัวคะมำล้มฟาดพื้นจบหมดสติ ตนจึงอุ้มออกมาหน้าบ้านปั๊มหัวใจแต่ไม่ดีขึ้น จึงโทรแจ้งให้กู้ภัยมารับตัวไปส่ง รพ.ทุ่งตะโก แต่เด็กก็เสียชีวิต

Advertisement

ด้าน นายณรงค์ พ่อของเด็ก ให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเด็ก เพราะกลางวันตนออกไปทำงานทุกวันจึงไม่รู้ว่าลูกชายถูกทำร้าย ส่วนที่ตนต้องตามไปอยู่กับ น.ส.นันทิยา ที่ จ.เพชรบุรี เพราะภรรยาไม่กล้าอยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งตะโก เนื่องจากฝ่ายญาติๆ ของอดีตภรรยาข่มขู่ไม่ให้ไปงานศพลูกชาย และจะตามยิงให้ตาย

พล.ต.ต.ถาวร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาต่อนายณรงค์ เพราะช่วงเกิดเหตุออกไปทำงาน ส่วนจะรู้เห็นในการช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่นั้นต้องรอผลการสอบสวนที่ชัดเจนอีกครั้ง จึงจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image