เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ จ.ลำปาง คณะอนุกรรมาธิการ ด้านสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดย ผศ.บุญส่ง ไข่เกษ รองประธาน คนที่ 3 คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธาน คนที่ 4 คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมคณะโฆษกคณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ และที่ปรึกษา ได้เดินทางมารับฟัง และศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่งแจ้ง และฝุ่นหมอกควัน PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ
โดยคณะได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์พื้นที่ จ.ลำปาง เป็นจังหวัดแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาไฟป่า และฝุ่นหมอกควัน ก่อนจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือ
ผศ.บุญส่ง กล่าวว่า การเดินทางมาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ลำปาง ครั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับทราบไปเสนอในที่ประชุมคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นประธานคณะกรรมธิการ ซึ่งข้อมูลสถานการณ์ การป้องกัน และแก้ไขปัญหา จะมีการนำเสนอต่อคณะวุฒิสภา จากนั้นจะรวบรวมส่งไปยังรัฐบาล เพื่อให้ได้รับทราบถึงผลงานดำเนินงานในด้านต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยกันป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำทุกภาคส่วนภายใต้ศูนย์ป้องกัน และแก้ไชปัญหาไฟป่า และหมอกควันของ จ.ลำปาง เข้ารายงานสถานการณ์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ว่า ภาพรวมสถานการณ์ในปี 2564 นี้ไม่หนักมาก หากเทียบกับเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา โดยในห้วง 2 ปีนี้ จากการดำเนินงานของทุกฝ่ายของ จ.ลำปาง ที่บูรณาการทำงานร่วมกัน ทำให้ปัญหาลดลง จากการเทียบจากการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นหมอกควัน ตามวิสัยทัศน์ “คนลำปางสุขภาพดี เมื่อไม่มีหมอกควัน” ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดเดียวในภาคเหนือตอนบนที่ใช้ค่าสถิติการเจ็บป่วย ในการวัดผลต่อสถานการณ์ฝุ่นหมอกควันในพื้นที่ จ.ลำปาง
“ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม-4 มีนาคม 2564 พบผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นหมอกควัน จำนวน 10,176 ราย แต่หากเทียบช่วงเดียวกันกับปี 2562 พบมากถึง 57,252 ราย ถือว่าในปีนี้ลดลงจากปี 2562 ถึงร้อยละ 70 ซึ่ง จ.ลำปาง ตามวิสัยทัศน์ คนลำปางสุขภาพดี เมื่อไม่มีหมอกควัน เพื่อกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานให้ลดอัตราการเจ็บป่วยของประชาชนชาวลำปาง ลงร้อยละ 70 จำนวนจุดฮอตสปอต ลดลงร้อยละ 50 และจำนวนวันที่ค่าฝุ่นที่เกินค่ามาตรฐานลดลงร้อยละ 50” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
นายณรงค์ศักดิ์รายงานอีกว่า ข้อมูลในปี 2563 จ.ลำปาง สามารถดำเนินงานลดค่าสถิติต่างๆ ลงจากปีที่หนักๆ 2562 ทั้งในเรื่องการเจ็บป่วย ให้ได้รับผลกระทบน้อยลง 70.55% จุดฮอตสปอตที่เกิดไฟไหม้ป่าลดลง 48.10% และจำนวนวันค่าฝุ่นที่เกินมาตรฐานลดลง 16.67% ฉะนั้น ในปี 2564 นี้ ทางจังหวัดประเมินว่า สถานการณ์ยังไม่หนักมาก หากเทียบกับเมื่อปี 2562 หรือในปี 2563 ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ป่า และปัญหาฝุ่นหมอกควันในพื้นที่ได้ ทางจังหวัดจะกำหนดเป้าหมาย และเร่งการดำเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหา เพื่อลดปัญหาต่างๆ ของสถานการณ์ไฟป่า และฝุ่นหมอกควัน ให้เบาบางลง ให้มากที่สุด เพื่อให้การป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้นสัมฤทธิ์ผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางคณะอนุกรรมาธิการ ด้านสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานของ อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลผืนป่าแนวเทือกเขาดอยพระบาท ซึ่งเป็นพื้นป่าที่สำคัญของ จ.ลำปาง เนื่องจากเป็นผืนป่าใหญ่เนื้อที่กว่า 70,000 ไร่ อยู่ใกล้ตัวเมือง โดยในปี 2564 นี้ ยังไม่เกิดไฟไหม้ป่าลุกลามหนัก เนื่องจากมีการส่งเจ้าหน้าที่คุมเข้ม ทั้งการประกาศปิดป่า และเดินลาดตระเวนของหน่วยป่าไม้ และกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 เพื่อไม่ให้คนเข้าไปล่าสัตว์ป่า หาของป่า และจุดไฟเผา ซึ่งหากปล่อยให้ไหม้ และลุกลามขยายวงกว้าง จะทำให้ตัวเมืองลำปาง เข้าสู่ภาวะวิกฤตหนักทันที จากฝุ่นหมอกควัน
โดย ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต ได้รายงานการป้องกันไฟป่า และยังสาธิตการดับไฟป่า รวมถึงการทำแนวกันไฟ ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการ ด้านสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมคณะ ยังได้ร่วมทดลองทำแนวกันไฟ ด้วยการใช้ไม้กวาดไม้ไผ่ กวาดเศษใบไม้ แล้วนำไปเทรวม เพื่อจะนำไปใช้ประโยชน์ ตามมาตรการ “ชิงเก็บ ลดเผา” ด้วยการนำเศษใบไม้ที่ได้ ไปทำปุ๋ยหมัก และอัดก้อน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ต่อไป
