เกษตรกร กว่า 200 ราย ที่ถูกบริษัทปุ๋ยฟ้อง เฮ! หลังศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น คือยกฟ้อง วอนบริษัทปุ๋ยหยุดฎีกา เพราะรู้ดีว่าเกษตรกรไม่รู้เรื่อง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 มีนาคม กลุ่มเกษตรกร 5 อำเภอ มี อ.โนนสุวรรณ ,หนองหงส์ ,นางรอง ,ปะคำ และ อ.หนองกี่ จ. บุรีรัมย์ กว่า 200 คน เดินทางมาฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ที่ศาลจังหวัดนางรอง อ.นางรอง
หลังจากถูกบริษัทผลิตปุ๋ยฟ้องให้ชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย จากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ปี 2558 ซึ่งกลุ่มเกษตรกรได้ปฏิเสธมาตั้งแต่ต้น ว่าเป็นโครงการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)บุรีรัมย์ เกษตรกรทั้งหมดเป็นเพียงผู้เซ็นต์ชื่อรับสินค้าเท่านั้น
แต่บริษัทปุ๋ยไม่ยอม และสั่งฟ้องทั้งหมดจํานวน 88 คดี จําเลยรวม 222 คน ในข้อหาผิดสัญญาซื้อขายปุ๋ยอินทรีย์ จํานวน 100,945 กระสอบ มูลค่า 40,378,000 บาท โดยทุนทรัพย์ที่ฟ้อง 42,821,410.01 บาท
โดยศาลได้ติดตั้งภาพวงจรปิด ขณะอ่านคำพิพากศาของศาลอุทธรณ์ ท่ามกลางเกษตรกรที่ถูกฟ้องต้องลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา หลังจากศาลนางรอง อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทุกคนต่างดีใจ
นางหนูแดง ทองใบ อายุ 48 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ หนึ่งในผู้ที่ถูกฟ้อง กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ศาลอุทธรณ์ มองเห็นและเข้าใจว่าเกษตรกรไม่ใช่คู่ค้ากับบริษัทปุ๋ย เป็นเพียงคนรับปุ๋ยที่ อบจ.ส่งมาให้เท่านั้น ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง DSI ยุติธรรมจังหวัด รวมถึงทนายอาสา ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ถ้าจะให้สบายใจก็ขอวอนบริษัทปุ๋ยฎีกาคดีต่อ เพราะบริษัทปุ๋ยก็รู้ดีว่าเกษตรกรไม่รู้เรื่อง
สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก อบจ.บุรีรัมย์ มีโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ โครงการและเงินงบประมาณซึ่งสภา อบจ.บุรีรัมย์ โดยความเห็นชอบของ ผวจ. ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมจากรายได้ที่จัดเก็บจากประชาชนในพื้นที่ในแต่ละปี อันเป็นโครงการต่อเนื่องตามนโยบายการแก้ปัญหาความยากจนของนายก อบจ. บุรีรัมย์ โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2555-2558
โดยบริษัทปุ๋ยได้ส่งปุ๋ยมาให้กับเกษตรกร ก่อนที่โครงการจะได้รับการอนุมัติซึ่งเหลือขั้นตอนเพียงผู้ว่าราชการจังหวัดเซ็นต์ แต่ได้รับการทักท้วงจาก สตง.ทำให้ผู้ว่าฯในครั้งนั้นไม่กล้าเซ็นต์รับรอง ทำให้บริษัทปุ๋ยมาฟ้องหัวหน้ากลุ่มเกษตรกรแต่ละกลุ่มที่เซ็นต์รับปุ๋ยไว้
