16 ราษฎร รายงานตัว สภ.เมืองขอนแก่น ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ‘เซฟ’ เผาหมายเรียก ฉะ ตร.เล่นใหญ่เกิน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่ สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและปราบจลาจลรวม 4 กองร้อย จากพื้นที่จังหวัดต่างๆ วางกำลังโดยรอบ สภ.เมืองขอนแก่น ตามมาตรการป้องกันและควบคุมฝูงชนสูงสุด รวมทั้งการนำรั้วลวดหนาม และแผงเหล็กมากั้นเพื่อตรวจสอบการเข้า-ออกสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาภายใน สภ.เมืองขอนแก่น

เนื่องจากวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ออกหมายเรียกให้แกนนำคณะราษฎรทั้ง 16 คนเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนตามฐานความผิดใน 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วยความผิด พ.ร.บ.ธงชาติไทย จากการชุมนุมและปลดธงชาติ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2564 รวมทั้งการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินและโรคระบาด จากการชุมนุมที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2564 และการชุมนุมที่หน้า สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2564

ขณะที่ นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ แกนนำคณะราษฎรขอนแก่น พร้อมด้วยผู้ที่ถูกออกหมายเรียกต่างทยอยกันเดินทางมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น ตามการนัดหมายของพนักงานสอบสวน โดยที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้อ่านระเบียบการห้ามการชุมนุมและการทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาให้กำลังใจกับเหล่าบรรดาแกนนำ

เนื่องจากมีผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาสมทบกันที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น จำนวนมาก อีกทั้งมีการนำรถปราศรัยขนาดเล็กมาจอดริมถนน และติดตั้งเต็นท์บริเวณกลางถนนกลางเมือง ด้านหน้า สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อรวมตัวกดดันเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมเดินทางเข้าไปภายใน สภ.เมืองขอนแก่น แต่อย่างใด

Advertisement

ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนและปราบจลาจลต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ และตรวจสอบบัตรผู้ที่จะผ่านเข้า-ออก โดยกำหนดให้เฉพาะแกนนำกลุ่มราษฎร 16 คน และทนายความ เข้าไปในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่นเท่านั้น


นายวชิรวิทย์
กล่าวว่า ตนได้รับหมายเรียกรวม 3 หมายเรียก ซึ่งก็มารายงานตัวพร้อมกับผู้ที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 16 คน ซึ่งประกอบด้วย นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่, นายชัยธวัช นามมะเริง, นายนิติกร ค้ำชู, นายกรชนก แสนประเสริฐ, นายพชร สารธิยากุล, นายธนศักดิ์ โพธิเตมืย์,

นายวชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า นายวีรภัทร ศิริสุนทร, นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์, นายศรายุทธ นาคมณี, น.ส.จตุพร แซ่อึง, นายเชษฐา กลิ่นดี,นายศิวกร นามนวด, นายเจตน์สฤษฎิ์ นามโคตร, นายอิศเรษฐ์ เจริญคง, น.ส.วิศัลยา งามนา และตนเอง ซึ่งทุกคนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะชุมนุมกันตามสิทธิและหน้าที่

“ตำรวจเล่นใหญ่เกินเบอร์ จัดกำลังตำรวจนับร้อย วางกำลังอย่างเข้มงวด พวกเรามารายงานตัวตามหมายเรียก ที่เรายืนยันในการต่อสู้ตามกฎหมาย ซึ่งทั้ง 16 คนนั้นยืนยันในการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเตรียมการประกันตัวไว้แล้ว โดยที่ทีมทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและทีมทนายความในพื้นที่ได้เดินทางมาร่วมรับฟัง และร่วมแนะนำในขั้นตอนของกฎหมาย แบบ 1ต่อ 1

“เพราะหากตำรวจมีการสั่งฟ้องแกนนำทั้ง 16 คน และฝากขังที่ศาลขอนแก่น ทีมกฎหมายและทนายความก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที


“เรายืนยันชัดเจนว่าการชุมนุมนั้นกระทำได้ตามสิทธิและหน้าที่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าตำรวจทำไมถึงเล่นใหญ่เกินไป ห้ามประชาชนเข้าไปภายในพื้นที่ ทั้งที่เป็นสถานที่ราชการที่ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้งานได้

“เท่ากับว่าตำรวจไม่เข้าข้างประชาชน แต่ทำงานด้วยระบอบศักดินาที่ชัดเจน” นายวชิรวิทย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการพูดคุยร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและแกนนำผู้ชุมนุมแล้วเสร็จ นายวชิรวิทย์ได้เผาหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งใช้เท้าเหยียบหมายเรียกต่อหน้าเจ้าหน้าที่

ขณะเดียวกันได้มีประชาชนบางส่วนที่ไม่พอใจต่อการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ามาโต้เถียงกับแกนนำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวออกไปอยู่คนละฝั่ง เพื่อป้องกันเหตุการณ์บานปลายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image