วันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายประสิทธิ์ชัย ผังรอดรัตน์ ปลัดอาวุโส อ.ฆ้องชัย รักษาราชการนายอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (เขื่อนระบายน้ำวังยาง) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนากลุ่มน้ำชีกลาง พร้อมด้วยตัวแทนจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.มหาสารคาม ตัวแทนเกษตร อ.ฆ้องชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฆ้องชัย เข้าตรวจสอบสถานีสูบน้ำพลังงานไฟฟ้าบ้านโนนแดง ม.1 ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อทำความเข้าใจชี้แจงสถานการณ์ภัยแล้ง และขอความร่วมมือให้งดสูบน้ำ หลังจากพบว่าสถานีสูบน้ำดังกล่าวซึ่งเป็นขององค์การบริหารส่วนตำบลลำชี ได้ฝ่าฝืนประกาศและลักลอบสูบน้ำจากแม่น้ำชี เพื่อทำการปลูกข้าวนาปรัง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่ปัจจุบันสงวนไว้เพื่อการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลกระทบและประชาชนจะประสบกับวิกฤติภัยแล้งในอนาคต
นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (เขื่อนระบายน้ำวังยาง) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนากลุ่มน้ำชีกลาง กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ส่งน้ำหล่อเลี้ยงให้กับแม่น้ำชี มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 684 ล้าน ลบ.ม. โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้เพียง 103 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากปริมาณฝนเฉลี่ยในปีนี้ตกลงมากน้อย และปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์ได้ส่งน้ำลงสู่แม่น้ำชี เพื่อช่วยเหลือประชาชนการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศในช่วงหน้าแล้งวันละ 500,000 ลบ.ม. คาดว่าปริมาณน้ำจะสามารถส่งให้ได้ถึงช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้เท่านั้น
นายพัฒนะ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชีทั้งใน จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม และ จ.กาฬสินธุ์ จำเป็นต้องร่วมกันวางแผนอย่างรัดกุม เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคของประชาชน โดยได้ร่วมกันประชุมและมีมติออกประกาศและส่งหนังสือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกษตรกรผู้ใช้น้ำ ผู้นำชุมชน และหน่วยงานราชการต่างๆ ให้งดสูบน้ำทำนาปรัง แต่จากการตรวจสอบในพื้นที่ปัจจุบันพบว่ายังมีเกษตรกรในพื้นที่ อ.กันทรวิชัย อ.เมือง จ.มหาสารคาม และ อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ยังคงทำการปลูกข้าวนาปรังอยู่ประมาณ 40,000 ไร่ แต่ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องสูบน้ำของตนเองสูบน้ำจากลำห้วยและแม่น้ำสาขาของแม่น้ำชีเพื่อทำการเกษตร ส่วนสถานีสูบน้ำและแพสูบน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นของหน่วยงานรัฐที่อยู่ในพื้นที่กว่า 60 แห่ง ก็ได้ให้ความร่วมมืองดสูบน้ำทั้งหมด เนื่องจากเข้าใจต่อสถานการณ์ แต่มีเพียงสถานีสูบน้ำบ้านโนนแดง ม.1 ซึ่งเป็นขององค์การบริหารส่วนตำบลลำชีเท่านั้นที่ยังคงฝ่าฝืนและทำการสูบน้ำไปทำนาปรังอยู่อีกว่า 1,500 ไร่ ทำให้ประมาณน้ำในแม่น้ำชี บริเวณหน้าเขื่อนวังยางลดลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 1-5 เซนติเมตร จากระดับน้ำกักเก็บที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ 137.50 เมตร รทก.ปัจจุบันเหลืออยู่ที่ 136.69 เมตร รทก.ลดลงกว่า 1 เมตร หรือจากที่มีปริมาณน้ำ 33.59 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเหลืออยู่ 30.50 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากสถานการณ์เป็นลักษณะนี้ต่อไป ประกอบกับหากเขื่อนอุบลรัตน์หยุดการส่งน้ำ อาจจะทำให้น้ำไม่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคได้ เพราะในช่วงนี้ยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้งที่แท้จริง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันออกเยี่ยมสถานีสูบน้ำบ้านโนนแดง ม.1 เพื่อทำความเข้าใจชี้แจงและขอความร่วมมือกับเกษตรกรงดสูบน้ำทำนาปรัง เพื่อสงวนน้ำไว้อุปโภคบริโภค
ด้านนายประสิทธิ์ชัย ผังรอดรัตน์ ปลัดอาวุโส อ.ฆ้องชัย รักษาราชการนายอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ อ.ฆ้องชัย ได้รับน้ำจากแม่น้ำปาว และแม่น้ำชี ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง โดยทางอำเภอได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนทุกแห่งแล้ว เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สถานีสูบน้ำที่เป็นของรัฐงดสูบน้ำทำนาปรัง และให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน แต่สถานีสูบน้ำแห่งนี้ ซึ่งทราบว่าเป็นของอบต.ลำชี ยังคงสูบน้ำเพื่อทำนาปรังอยู่ ดังนั้นทางอำเภอก็จะเข้าไปทำความเข้าใจและขอความร่วมมือให้เกษตรกรหยุดสูบน้ำ พร้อมกับเชิญผู้บริหารเข้ามาทำความเข้าใจใหม่ เพื่อที่จะสงวนน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนต่อไป