ผู้ว่าแม่ฮ่องสอน แจงกรณีผู้หนีภัยความไม่สงบข้ามมาไทย เผยมีผู้บาดเจ็บ 7 รายกระจายรักษาตัวรพ.ไทย

ผู้ว่าแม่ฮ่องสอน แจงกรณีผู้หนีภัยความไม่สงบข้ามมาไทย เผยมีผู้บาดเจ็บ 7 รายกระจายรักษาตัวรพ.ไทย

วันที่ 30 มีนาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังการประชุมการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านระบบการประชุมทางไกล (VTC) ที่ห้องประชุม CAT CONFERENCE สำนักงานบริการลูกค้าแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากกรณีที่มีการปฏิบัติการทางทหาร ระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองทัพเมียนมา ตรงข้ามชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  จนเป็นเหตุให้มีผู้หลบหนีภัยการสู้รบที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เข้ามาอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสาละวินชายแดนไทย

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุถึงสถานการณ์ โดยให้ข้อเท็จจริง 3 ประเด็น ประเด็นที่ 1 สถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ที่ได้ข้ามฝั่งมาตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน จำนวนประมาณสองพันคน ได้กระจายอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง และ อ.ขุนยวม บางส่วน โดยกองกำลังนเรศวร ได้ดำเนินการดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งเจรจาสร้างความเข้าใจให้ผู้หนีภัย ซึ่งได้ยินยอมเดินทางกลับโดยสมัครใจ ส่วนใหญ่มีความเข้าใจในสถานการณ์ และคลายความกังวล สมัครใจเดินทางกลับ คงเหลือจำนวนเพียงบางส่วน ซึ่งคาดว่าจะเดินทางกลับภายใน 1 – 2 วันนี้

Advertisement

ประเด็นที่ 2 หากแนวโน้มสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น และมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) บางส่วนยังไม่สมัครใจกลับหรือมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเข้ามาเพิ่มเติมทางจังหวัดจะได้ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล ซึ่งจะได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติ ต่อไป กรณีหากสถานการณ์ยกระดับความรุนแรงขึ้น จังหวัดจะดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ในระดับจังหวัด โดยมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในพื้นที่ ทั้งนี้หากเกินกำลังในระดับจังหวัดจะขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม จากกระทรวงมหาดไทย ต่อไป

ประเด็นที่ 3 กรณีมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 รายทั้งหมดได้เข้ามารักษาพยาบาลเบื้องต้น ที่โรงพยาบาล อ.สบเมย จำนวน 5 ราย ,โรงพยาบาลแม่สะเรียง จำนวน 1 ราย และโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จำนวน 1 ราย เมื่อได้ทำการรักษาเสร็จสิ้น ตามกระบวนการทางการแพทย์แล้ว จะได้ส่งตัวกลับพื้นที่ปลอดภัย ต่อไป ทั้งนี้เป็นการช่วยเหลือ ตามหลักสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ

Advertisement

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลบางส่วนที่เกินอำนาจหน้าที่ของทางจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุ ไม่อาจที่จะสามารถให้ข้อมูลส่วนนี้ได้ พร้อมขอให้สื่อเผยแพร่ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัย อยู่ในความดูแลของทหารกองกำลังนเรศวร

กรณีที่มีการเข้าไปในพื้นที่ของสื่อ ต้องมีการประสานกับกองกำลังนเรศวรผู้รับผิดชอบพื้นที่ เนื่องจากภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่ ไม่สามารถให้การรับรองเรื่องความปลอดภัย  สำหรับการเตรียมพื้นที่กักตัวหากมีผู้อพยพเข้ามามากขึ้น ทางจังหวัดได้มีการเตรียมในเบื้องต้น รอเพียงความชัดเจนหน่วยเหนือสั่งการเพิ่มเติมต่อไป

เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่ รพ.สต.แม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับราษฏรมวลชนกะเหรี่ยงที่ได้รับบาดเจ็บ 7 คน โดยทีมแพทย์ รพ.สต.ตำบลแม่สามแลบ ร่วมกับ โรงพยาบาลสบเมย ได้ให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสบเมย 5 ราย โรงพยาบาลแม่สะเรียง 1 ราย และ ส่งต่อโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ 1 ราย ทั้งหมดบาดเจ็บจากระเบิด จากการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า ที่บ้านเดปุนุ กองพล 5 รัฐกะเหรี่ยง KNU เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 64 เป็น ชาย 3 คน หญิง 4 คน ดังนี้ 1.นายซอโด้เนโซ อายุ 15 ปี 2.นายซอครอง อายุ 37 ปี 3.นายซอลาเตร อายุ 48ปี 4.น.ส.นอเอสะตะ อายุ 18 ปี 5.น.ส.นอมือเกรอ อายุ 25 ปี 6.นางนอแบทู อายุ 60 ปี และ 7.นางเชอคึมู อายุ 31 ปี ซึ่งผู้ป่วยถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา และมีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกาย โดยทีมแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลสบเมย ใส่ชุด PPE ป้องกันโควิด-19 ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อมนุษยธรรม.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image