‘บิ๊กอุ้ย’ ตรวจฝึก ทร.ปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ปี’64

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ จ.นราธิวาส พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์ การฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในการฝึกภาคทะเล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2564 ณ หาดบ้านทอน ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมี พล.ร.ท.สมัย ใจอินทร์ รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 พล.ร.ต.สรไกร สิริกรรณะ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทนผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ น.อ.อมร ซื่อตรง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน/ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ให้การต้อนรับ

การฝึกภาคทะเลนั้น เป็นการฝึกของกำลังทางเรือในการควบคุมทะเล และขยายอำนาจจากทะเลสู่ฝั่ง ตามแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ และแผนป้องกันประเทศในแต่ละด้าน โดยจัดตั้งกองเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกล ซึ่งเป็นกำลังเชิงรุก มีกำลังสำคัญ ประกอบด้วย หมวดเรือเฉพาะกิจโจมตีหมวดเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และหมวดเรือสนับสนุน โดยหมวดเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ที่จัดให้มีการยกพลขึ้นบกในวันนี้ จัดกำลังประกอบด้วย หมู่เรือลำเลียง ได้แก่ เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสีชัง และเรือหลวงสุรินทร์ หมู่บินลาดตระเวนและลำเลียง ได้แก่ เครื่องบินตรวจการณ์ชายฝั่ง เครื่องบินลาดตระเวน เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง และเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ผิวน้ำ กำลังรบยกพลขึ้นบก ได้แก่ ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ยานเกราะล้อยาง (BRT) รถฮัมวี่ (HMMWV) ปืนใหญ่ ขนาด 105 มม. พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธิน จำนวน 700 นาย นอกจากนั้น ยังมีกำลังในส่วนอื่นๆ อาทิ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดปฏิบัติการชายหาด และชุดแพทย์โรงพยาบาลสนาม

Advertisement

สำหรับการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบการปฏิบัติตามหลักนิยมในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก พ.ศ.2564 ทดสอบแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ พ.ศ.2563 และทดสอบความพร้อมกำลังทางเรือและกำลังรบยกพลขึ้นบกนาวิกโยธิน ในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก โดยในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก จำเป็นจะต้องได้มาซึ่งการควบคุมทะเลและครองอากาศในพื้นที่ปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งห้วงเวลาที่กำหนดการค้นหาและลิดรอนทำลายกำลังทางเรือของข้าศึกทั้งเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำไม่ให้เป็นภัยคุกคามเป็นภารกิจหนึ่งในการควบคุมทะเล โดยการปฏิบัติการในวันนี้เริ่มด้วย

– เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ทำการค้นหาและกำหนดตำบลที่เรือดำน้ำ เพื่อใช้อาวุธในการโจมตีทำลาย ในขณะเดียวกันเครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าได้บินตรวจการณ์ และชี้เป้าหมายเรือข้าศึกเพื่อให้กำลังทางเรือใช้อาวุธทำลายจนได้การควบคุมทะเล และเมื่อได้การควบคุมทะเลในพื้นที่ปฏิบัติการแล้ว กองเรือเฉพาะกิจสะเทินน้ำสะเทินบก จะขอรับการสนับสนุนการกำหนดช่องทางเข้า-ออกเรือเล็ก จากชุดต่อต้านทุ่นระเบิดเคลื่อนที่ เพื่อทำลายทุ่นระเบิดที่ฝ่ายข้าศึกได้วางไว้ป้องกันพื้นที่ยกพล เมื่อชุดลาดตระเวนแทรกซึมเข้าพื้นที่ยืนยันพิกัดกำลังของฝ่ายข้าศึกได้แล้ว จะร้องขอการทำลายที่หมายด้วยปืนใหญ่เรือ เพื่อให้ข้าศึกหมดขีดความสามารถในการต่อต้านกำลังรบยกพลขึ้นบกที่จะขึ้นมาดำเนินกลยุทธ์บนฝั่ง

Advertisement

– เมื่อพื้นที่บนบกกำลังต่อต้านถูกทำลายแล้ว ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) คลื่นแรก ได้เข้าปิดระยะ และขึ้นเกยหาด ตามด้วยยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) คลื่นที่สอง โดยทำการโจมตีเป้าหมายบนฝั่งอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเรือระบายพลแบบ LCVP จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นคลื่นที่ 3 ได้เคลื่อนที่เข้าเกยหาดเพื่อทำการส่งกำลังรบดำเนินกลยุทธ์ ในขณะเดียวกันกำลังรบยกพลขึ้นบกที่บรรทุกมาบนเรือระบายพลขนาดเล็ก ได้เคลื่อนออกจากเรือ เพื่อเข้าทำลายข้าศึกบนหาด ต่อมากำลังรบคลื่นที่ 4 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์แบบต่างๆ ของกองทัพเรือ ประกอบด้วย แบบ EZ แบบ ซูเปอร์ ลิงค์ และแบบ เบลล์ 212 ทำการลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ สนับสนุนดำเนินกลยุทธ์บนฝั่ง ตามด้วยกองร้อยยานเกราะล้อยาง ที่ลำเลียงมาจากเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่แล่นมาเกยหาด ได้เคลื่อนจากเรือขึ้นฝั่งเพื่อสนับสนุนกำลังรบยกพลขึ้นบก ตามด้วยการส่งกลับสายแพทย์ กรณีมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ อันเป็นการเสร็จสิ้นการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก

วันนี้นอกจากการฝึกภาคสนามและภาคทะเลที่จัดให้มีขึ้นในวันนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น แบบ HARPOON BLOCK 1C โดยเรือหลวงตากสิน การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ (LINK – E) และยิงอาวุธทางยุทธวิธี และยิงเป้าอากาศยาน ในพื้นที่ทะเลอันดามัน โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมสังเกตการณ์ โดยการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น แบบ HARPOON BLOCK 1C ในครั้งนี้ ได้ทำการยิงอาวุธปล่อยต่อเป้าที่ระยะ 55 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 100 กิโลเมตร นับเป็นการยิงไกลสุดที่เคยทำการยิงมาในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้หัวระเบิดจริง

ซึ่งกองทัพเรือดำเนินการเองโดยไม่พึ่งพาประเทศเจ้าของอาวุธปล่อย หรือต่างชาติแต่อย่างใด โดยอาวุธปล่อยสามารถวิ่งชนเป้าได้อย่างแม่นยำ นับเป็นความสำเร็จของกองทัพเรือไทย อีกทั้งเป็นการสร้างความชำนาญและเพิ่มองค์ความรู้ทางยุทธการให้มีความต่อเนื่องเป็นหลักประกันของชาติทางทะเลได้อย่างคุ้มค่า เพราะอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ Harpoon ถือได้ว่าเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ป้องปราม

และในวันที่ 9 เมษายน 2564 กองทัพเรือจะจัดให้มีการฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง บริเวณสนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ.จันทเขลม อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยได้เชิญกองทัพบกและกองทัพอากาศ จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกตามรายการต่างๆ ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกเหล่าทัพในทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงคุณลักษณะและขีดความสามารถของกำลังรบจากเหล่าทัพต่างๆ อันจะนำไปสู่การวางแผนการใช้กำลังทางทหารและการปฏิบัติการรบร่วมที่มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลในการป้องกันประเทศในอนาคตตามวิสัยทัศน์กองทัพไทยที่ “เป็นกองทัพชั้นนำในภูมิภาคมีนวัตกรรมทันสมัย ปฏิบัติการร่วมอย่างมีประสิทธิภาพทุกมิติ” และสร้างความสมัครสมานสามัคคี อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของกองทัพไทยในภาพรวม ตามคำขวัญของกองทัพเรือที่ว่า “พลังสามัคคี พลังราชนาวี”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image