หนุ่มใหญ่หึงโหด ใช้มีดแทงแฟนสาววัย 24 ปี ตายในรถ ก่อนรมควันฆ่าตัวตายตาม

หนุ่มใหญ่หึงโหด ใช้มีดแทงแฟนสาววัย 24 ปี ตายในรถ ก่อนรมควันฆ่าตัวตายตาม

หนุ่มใหญ่หึงโหด ใช้มีดแทงแฟนสาววัย 24 ปี ตายในรถ ก่อนรมควันฆ่าตัวตายตาม พี่สาวเผยฝ่ายชายเป็นคนขี้หึงเพราะฝ่ายหญิงหน้าตาดี จนต้องขังไว้ในห้องไม่ยอมให้ออกไปไหน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจ อปพร.เชียงใหม่ ร่วมกันตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋งสีแดง ที่จอดอยู่ภายในซอยย่านถนนโพธาราม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากรถยนต์คันดังกล่าว พบรถยนต์คันเกิดเหตุเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณกระจกด้านหน้าและด้านข้างรถถูกคลุมด้วยผ้าเพื่อไม่ให้มองเห็น ส่วนรถถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามใช้อุปกรณ์เปิดประตูรถอยู่นานแต่ไม่สามารถเปิดได้ สุดท้ายต้องนำชะแลงมาทุบกระจกด้านหลังฝั่งคนขับ เพื่อปลดล็อกประตูจากด้านใน หลังเปิดประตูรถเจ้าหน้าที่พบศพชายนอนเสียชีวิตขึ้นอืดอยู่ในรถ บริเวณที่นั่งคนขับเบาะพับเอนไปข้างหลัง สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมแต่กางเกงนอนขายาว

ส่วนภายในรถพบหม้อหุงข้าว ด้านในมีถ่านที่มอดแล้ววางอยู่บริเวณที่พักเท้าคนขับ ส่วนด้านข้างศพผู้ชายมีกองผ้าห่ม และผ้าปูที่นอนม้วนอยู่เมื่อแกะออกพบศพผู้หญิงสภาพศพขึ้นอืดเช่นกัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบขวดเบียร์วางอยู่บริเวณที่พักเท้าฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง ใกล้กับศพผู้หญิง รวมทั้งกระป๋องทินเนอร์ ยาเบื่อหนู มีดคัตเตอร์ และมีดพกสปาร์ตา ปลายมีดมีรอยคราบเลือด และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 1 แผ่น หมายเลข กค 6421 ลำพูน คาดว่าจะเป็นของรถคันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

Advertisement

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชายผู้ตาย คือ นายวสุภัทร ธิยะนา อายุ 35 ปี ชาวอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนฝ่ายหญิง คือ น.ส.เบญจพร ผดุงการงาน อายุ 24 ปี ชาวตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จากการชันสูตรเบื้องต้นศพนายวสุภัทร ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่ศพของนางสาวเบญจพร มีร่องรอยถูกแทงที่บริเวณคอ และหน้าอกจนเป็นรู ขณะที่การตรวจสอบภายในห้องพักชั้น 3 ของหอพักแห่งหนึ่งที่ทั้งสองคนเช่าพักอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพ ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้

Advertisement

แต่บริเวณกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง มีข้อความเขียนด้วยลิปสติกสีแดง ว่า “’ฆ่าเพราะรัก เพราะรักจึงต้องฆ่า จริงๆ เราสองคนทะเลาะกันบ่อยมาก แต่มั้ยเคยจะรุนแรง มันเป็นเพราะอารมณ์ของแหม่มที่เมา และของผม……..วันนี้ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเราทะเลาะกันแรง สุดท้ายแหม่มบอกให้ผมฆ่า จึงฆ่าให้ตามไปเลย’ และจดหมายที่ฝ่ายชายเขียนระบายไว้อีก 1 แผ่น รวมทั้งกางเกงขาสั้นสีครีมเปื้อนเลือด เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพ และเก็บหลักฐานภายในห้องเพื่อนำไปตรวจสอบ

ด้านผู้เช่าหอพักรายหนึ่ง บอกว่า ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และมาเช่าหอพักดังกล่าวอยู่ได้ประมาณ 5 -6 เดือน ตลอดเวลาที่อยู่มักได้ยินเสียงทั้งสองคนทะเลาะกันบ่อยครั้ง และฝ่ายชายมักจะขังฝ่ายหญิงไว้ในห้องไม่ยอมให้ออกมา เมื่อวันเสาร์ตนเองขี่รถจักรยานยนต์กลับหอเห็นรถสีแดงคันนี้จอดอยู่เยื้องหอพัก และสตาร์ตเครื่องไว้แต่เอาผ้าคลุมรถไว้ จึงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ 2 วันก่อนเริ่มได้กลิ่นเหม็นโชยออกมา กระทั่งวันนี้จึงแจ้งเจ้าของหอมาตรวจสอบแต่ไม่สามารถเปิดประตูรถได้ จึงไปเรียกผู้ตายที่ห้อง เมื่อเคาะห้องไม่มีคนตอบรับและห้องก็ไม่ได้ล็อก จึงกลับมาดูที่รถอีกครั้ง ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างแรง คาดว่าจะมีคนเสียชีวิตในรถ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ส่วนนางธันยารัตน์ วรรณบุปผา อายุ 47 ปี พี่สาวของนายวสุภัทร ซึ่งเดินทางมาดูศพ กล่าวว่า ติดต่อน้องชายตั้งแต่วันเสาร์ เพื่อให้น้องชายมาส่งน้ำ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ปกติน้องชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและขี้หึง เพิ่งจะคบหาและอยู่กินกับฝ่ายหญิงได้ประมาณ 1 ปี โดยฝ่ายหญิงนั้นเคยมีสามีและลูกแล้ว 1 คน และเป็นคนหน้าตาดี ที่ผ่านมาทั้งคู่มักจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง และทุกครั้งน้องชายมักจะโพสต์ข้อความระบายในเฟซบุ๊ก ว่า อยากฆ่าตัวตาย ตนเคยบอกให้เลิกเพราะถ้าคบต่อไปอาจเกิดปัญหา แต่น้องชายก็ไม่ยอมเลิก แต่พากันย้ายมาอยู่ที่หอพักดังกล่าว จนสุดท้ายเกิดเหตุสลดขึ้น

พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าสาเหตุเพราะความหึงหวง โดยเหตุน่าจะเกิดช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา ฝ่ายชายเกิดทะเลาะกับฝ่ายหญิงในรถ ก่อนจะใช้มีดแทงฝ่ายหญิงเสียชีวิต จากนั้นจึงกลับขึ้นไปที่ห้องพักเขียนข้อความไว้ที่หน้ากระจก และนำผ้าห่มกับผ้าปูที่นอนมาห่อร่างฝ่ายหญิงไว้ จากนั้นตัวเองก็รมควันในรถเพื่อฆ่าตัวตายตามโดยใช้ทินเนอร์ในการจุดไฟ ส่วนยาเบื่อหนูต้องส่งศพไปผ่าชันสูตรอีกครั้งให้แน่ชัดว่า ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่เป็นคนกินยาเบื่อหนูเข้าไป หลังชันสูตรศพเบื้องต้น ได้มอบศพให้กู้ภัยนำส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราช เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง พร้อมประสานญาติของทั้งสองมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image