ตร. จับผู้ต้องหา คดีส่งอาวุธสงครามไปแม่สาย เพิ่มอีก 4 ราย เชื่อต้นทางนำมาใช้ในราชการ
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตรวจยึดเครื่องกระสุนและระเบิดในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวนมาก ว่าล่าสุดพลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดีค้าอาวุธสงคราม ที่ใช้วิธีการส่งผ่านบริษัทรับส่งพัสดุเอกชน จากพื้นที่ภาคใต้ไปที่อำเภอแม่สาย เพื่อส่งต่อไปให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากเมื่อวันที่ 28-29 มีนาคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ที่ใช้กับปืน M16 จำนวน 6,000 นัด ลูกระเบิดขว้างสังหารแบบ K75 จำนวน 115 ลูก ในกล่องพัสดุ
จากนั้นขยายผลไปจับ นายมโนปกรณ์ สั่งสอน อายุ 29 ปี ผู้ติดต่อขอรับพัสดุ และนายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเจริญ อายุ 31 ปี คนขับรถตู้ขนส่งสินค้าไปเมียนมา โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย”
จากการตรวจสอบพัสดุของกลางและสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 แล้ว กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้ประสานไปยังกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และภาค 8 ขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 4 คนคือ นายชิติพัทธ์ โชวมณี อายุ 31 ปี นายภัคเมศร์ กีรติธัญญศิลป์ อายุ 28 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม, นายธีรพล อรัญญพฤกษ์ อายุ 28 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และนางสาวพิชญาภัค กลองตัน อายุ 32 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
โดยผู้ต้องหาที่ได้เพิ่มนี้แบ่งหน้าที่กันเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกส่งของกลางจากพื้นที่ภาคใต้มาที่ภาคกลาง และกลุ่มที่ 2 ส่งของกลางจากภาคกลางไปที่อำเภอแม่สาย
พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานโดยไล่ตรวจเส้นทางของพัสดุใน 3 จุดคือชลบุรี นครปฐม และนครศรีธรรมราช พบหลักฐานที่เชื่อถือได้จนศาลอนุมัติหมายจับ และผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ส่งพัสดุที่พบของกลางจริง ต้นทางของของกลางเบื้องต้น เชื่อว่าน่าจะนำเข้ามาใช้ในทางราชการ แต่ยังต้องตรวจสอบ ล็อตนับเบอร์ของระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนปลายทาง จะไปส่งให้กับกลุ่มใดในประเทศเพื่อนบ้านนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เจ้าหน้าที่จะได้ประสานข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้านต่อ
