กงสุลอเมริกาหวังสถานการณ์ไทยคลี่คลายโดยเร็ว ชี้เมียนมายังเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2559 นางเจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 7 คน ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ หลังเข้ารับตำแหน่งกงสุลใหญ่ฯ ณ สถานกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา

โดยนางเจนนิเฟอร์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาประจำที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะชื่นชอบในสภาพอากาศที่เย็นสบาย และยินดีที่จะสานต่อโครงการต่างๆ ที่สหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนและส่งเสริมมาก่อนหน้านี้ อาทิ การพัฒนาศักยภาพบุคคลและเยาวชนของไทย ผ่านการศึกษาดูงานในสหรัฐอเมริกา โครงการผู้ลี้ภัย สุขภาพ ตลอดจนการลักลอบค้าสัตว์ส่งขายต่างประเทศ และปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมในภาคเหนือ เพราะปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและครอบครัว

“ในฐานะที่สหรัฐอเมริกาและไทยเป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนาน ชาวสหรัฐอเมริกาอยากเห็นวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทยคลี่คลายโดยเร็ว เพราะไทยถือเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคอาเซียน แม้ว่านับจากปี 2535 ที่ตนเองเคยเดินทางมาเมืองไทย จะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากตั้งแต่ตอนนั้น เป็นเรื่องยากที่จะตอบ บางอย่างก็เป็นเรื่องที่ดี และบางเรื่องก็น่าเศร้าใจ”

นางเจนนิเฟอร์ กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปัจจุบันทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องความร่วมมือของสองประเทศ หากประเทศไทยกลับสู่รัฐบาลประชาธิปไตยเชื่อว่าความสัมพันธ์ในลักษณะทวิภาคีจะแน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งในแง่ความช่วยเหลือเรื่องสุขภาพ หรือทางการทหาร ยืนยันว่าทั้งไทยและสหรัฐอเมริกาเป็นพันธมิตรมายาวนานและจะดำรงต่อไป เพราะประเทศไทยเป็นพันธมิตรในเชิงยุทธศาสตร์

Advertisement

“ในฐานะที่เคยอยู่ในประเทศเมียนมายังรู้สึกอัศจรรย์ใจที่มีการเปลี่ยนแปลงในเมียนมา ทั้งการปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี และนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งแรกในเมียนมา แต่ไทยและเมียนมาก็มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จึงคาดหวังว่าอนาคตประเทศไทยจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น”

เมื่อสื่อมวลชนไทยถามว่า หากประเทศไทยมีการเลือกตั้งและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป นางเจนนิเฟอร์ ตอบว่า บอกไม่ได้ว่าใครควรเข้ามาบริหารประเทศ อยู่ที่คนไทยจะตัดสินใจอย่างไร สหรัฐอเมริกาทำได้เพียงว่าอยากเห็นบรรยากาศที่เปิดกว้างและทุกกลุ่มทุกฝ่ายสามารถถกเถียงในประเด็นต่างๆ และเห็นการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม หรือ Free Fair และย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่มีนโยบายแทรกแซงประเทศอื่น หลังมีข่าวเรื่องมูลนิธิของนายจอร์จ โซรอส ให้การสนับสนุนสื่อและบางองค์กรในไทย เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image