จากกรณีไฟไหม้รถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ของบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด สายอุดรธานี-กรุเทพฯ หมายเลขข้างรถ 22-34 หมายเลขทะเบียน 10-7387 อุดรธานี ในพื้นที่ อ.บ้านแฮด จ.ขอนก่น เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย และมีผู้หนีออกมาได้อย่างหวุดหวิดอีก 16 ราย รวมผู้โดยสารและพนักงานที่มากับรถทั้งหมด 33 คน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด ว่า เจ้าหน้าที่วิศวกรกรมการขนส่งทางบกได้ส่งรายละเอียดมายังพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเกิดการขัดข้องที่ระบบเบรกของรถ ทำให้เบรกค้างจนเกิดความร้อน ทำให้ยางระเบิดขึ้น
พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ระบุว่า เมื่อยางระเบิด เศษยาง เช่น หน้ายางที่มีความร้อนได้กระเด็นไปโดนวาล์วท่อแก๊ส NGV ที่อยู่ภายในรถจำนวนมาก เนื่องจากรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวใช้ทั้งระบบแก๊สและน้ำมัน ทำให้แก๊สรั่วออกมาในอากาศ เกิดการติดไฟขึ้นจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว
อ่านข่าว : สงกรานต์สลด! ไฟไหม้รถทัวร์ ในจ.ขอนแก่น ดับ 5 ราย มีเด็กด้วย
– เยียวยาเหยื่อรถทัวร์ไหม้ ดับ-สาหัส รายละ 1 ล้าน หนุ่มวัย 19 เล่านาทีหนีตาย ได้กลิ่นก๊าซ
สำหรับรถจักรยานยนต์ที่อยู่ภายในรถทัวร์นั้น พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดสาเหตุของอุบัติเหตุสลดแต่อย่างใด อีกทั้งรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณโซนด้านหน้า ห่างจากบริเวณที่เกิดไฟไหม้ซึ่งอยู่วงท้ายของรถ ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการตรวจสอบต่อไป อีกทั้งเป็นเพราะสาเหตุใดจึงเกิดระบบเบรกขัดข้อง กระทั่งเกิดเหตุสลด ทั้งนี้ ประเด็นการนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนรถนั้น ขนส่งจังหวัดขอนแก่นยืนยันว่าสามารถทำได้ หากในรถมีที่ว่างก็ให้คิดค่าใช้จ่ายเป็นสัมภาระไปตามระเบียบของทางบริษัทรถที่ให้บริการ
ขณะที่ พนักงานขับรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว ในวันนี้ภายหลังจากพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแฮด ได้ส่งฝากขังผัดแรกที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหาตามมาตรา 291 “ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท โดยในชั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว
ล่าสุด พนักงานขับรถได้ยื่นขอประกันตัวที่ชั้นศาล โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว
นายวรพงษ์ เสริมทรง พี่เขยผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้หลังจากภรรยาซึ่งเป็นพี่สาวผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.ชูเกียรติ ไชยวิเศษ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแฮด เพื่อติดต่อขอรับศพของ น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม และ ด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี
นายวรพงษ์กล่าวว่า หลังจากพูดคุยกันก็ได้มีข้อสรุปร่วมกันว่า ในวันที่ 19 เม.ย.2564 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.บ้านแฮด จะมีการนัดพูดคุยเรื่องดังกล่าว ทั้งค่าสินไหม การเยียวยา รวมทั้งการตรวจอัตลักษณ์บุคคลเพื่อรับศพกลับในวันดังกล่าวด้วย โดยทางครอบครัวทั้ง 5 ศพ จะมาร่วมพูดคุยพร้อมกันกับทางบริษัทประกันภัย และบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด ก่อนจะรับศพกลับไป ซึ่งได้มีการพูดคุยกับครอบครัวแล้วเบื้องต้นจะนิมนต์พระสงฆ์อัญเชิญวิญญาณของนางสาวปรางค์ทองในวันดังกล่าวทีเดียว และจะตั้งศพที่บ้านเกิด คือ จ.อุดรธานี ส่วนการฌาปนกิจก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะตั้งศพไว้กี่วัน
นายวรพงษ์กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ภรรยาของตนเอง ซึ่งก็คือพี่สาวของผู้เสียชีวิต รวมทั้ง พ่อของ ด.ญ.ปวรรัตน์ได้เดินทางไปที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเยื้อกระพุ้งแก้มไปตรวจเทียบดีเอ็นเอแล้ว
