ลำพูน เอาไม่อยู่ ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 20 ราย ยอดสะสม 69 ราย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ศาลาประชาคม ศาลากลาง จ.ลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายสุริยพงณช์ สุริยะพงฑากุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน ) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ แพทย์หญิงภาวิณี เอี่ยมจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันที่ 15 เมษายน 2564 ของจังหวัดลำพูน ซึ่งพบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 ระลอกใหม่เพิ่มเติมจำนวน 20 ราย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9-15 เมษายน 2564 สะสม 69 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดทำงานวันแรก หน่วยงานทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน จะต้องดำเนินการตรวจสอบบุคลากรในองค์กรของท่าน ว่าได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ หากเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงกลับมาเเล้วจะต้องดำเนินกักตัว (HQ) 14 วัน อย่างเคร่งครัด หากในระหว่างนี้มีการผิดปกติ จะต้องเข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อตรวจหาเชื้อ
สำหรับพนักงานโรงงานที่จะเดินทางกลับจากภูมิลำเนาเข้ามาพักในหอพักต่างๆ หลังเทศกาลสงกรานต์ ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการประสานงานกับทางเจ้าของหอพัก เพื่อดำเนินการคัดกรองเชิงรุก โดยจะมีทีมตรวจสอบข้อมูล และสุ่มตรวจหาเชื้อ เพื่อให้การป้องกันเป็นอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ขณะเดียวกันในระยะนี้ที่ว่าการอำเภอ แต่ละอำเภอจะมีการออกคำสั่งกักตัว (HQ) สำหรับกลุ่มเสี่ยง ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณน้ำใจจากประชาชนที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายทั้งการสนับสนุนแผ่นผ้าใบกันฝนและกันร้อน รวมถึงถังเก็บน้ำแข็งขนาดใหญ่ และน้ำดื่มมาร่วมบริจาค สำหรับผู้ที่อยากสนับสนุนของใช้จำเป็นแก่โรงพยาบาลสนาม ให้ดำเนินการติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 065 472 3714 หรือ 065 472 3715
ทั้งนี้สิ่งของที่ทางโรงพยาบาลสนามอยากได้ในตอนนี้คือ ผ้าเช็ดตัว ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่จะต้องทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งที่เข้าไปดูแลรักษาผู้ป่วย และผู้ป่วยเองก็ลืมนำติดตัวมาที่โรงพยาบาลสนามด้วย สิ่งที่สองที่อยากได้คือกระดาษทิชชู่ ไม่ว่าจะเป็นม้วนกลมหรือเป็นทิชชู่เช็ดมือก็ได้ทั้งหมด เพราะทุกคนที่เข้ามารักษาตัวต้องล้างมือบ่อยๆ จึงจำเป็นต้องใช้กระดาษทิชชู่เช็ดมือเพื่อทำความสะอาด นอกจากนั้นถ้าท่านใดที่ถนัดเกี่ยวกับการทำอาหาร ก็สามารถทำอาหารมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยได้ตลอดเวลา
ด้านรองนายแพทย์สาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการดำเนินชีวิต การทำกิจกรรมต่างๆ ในระยะนี้ ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง หมั่นล้างมือบ่อยๆ เมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคลอื่น และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อออกไปเป็นวงกว้าง
