เมื่อวันที่ 16 เมษายน นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลที่ 5 จ.พระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติการเปิดทางน้ำ โดยใช้เครื่องจักรกลประเภท รถขุดไฮดรอลิค แบบลงโป๊ะ จำนวน 2 ชุด เข้ากำจัดวัชพืชประเภทหยั่งรากลึก เช่น ต้นไมยราบยักษ์ และสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณคลองขนานคันกั้นน้ำองครักษ์-เกาะกา ในเขตพื้นที่ ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เพื่อกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำและเปิดทางน้ำให้ไหลผ่านได้สะดวก ซึ่งมีวัชพืชสะสมหนาแน่น มีวัชพืชสะสมประมาณ 20,100 ตัน ซึ่งได้กำจัดวัชพืชไปแล้ว ประมาณ 17,500 ตัน และรถขุดไฮดรอลิค แบบลงโป๊ะ จำนวน 1 ชุดได้เข้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณเหนือ ปตร.ผักไห่ ในพื้นที่ ตำบลตาลาน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีวัชพืชประเภทผักตบชวา แพร่กระจายอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้น้ำเกิดการเน่าเสีย และสร้างความลำบากแก่ประชาชน มีวัชพืชสะสมประมาณ 20,000 ตัน ซึ่งได้ดำเนินการกำจัดวัชพืชไปแล้ว ประมาณ 14,400 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในเดือน เมษายนนี้
วันเดียวกัน นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลที่ 6 โดย ฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 6 ได้นำเรือกำจัดวัชพืชชนิด แบ็คโฮว์ลงโป๊ะ จำนวน 1 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินงานกำจัดวัชพืชและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องน้ำให้กับประชาชน และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ คลองเลียบคัน กั้นน้ำเค็ม ชัยมงคล ตำบลชัยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดำเนินสะดวก สำนักงานชลประทานที่ 13 ปริมาณวัชพืช 13,000 ตัน ดำเนินการแล้ว 52% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน เมษายน 2564
ทั้งนี้นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้เปิดเผยว่าได้เร่งรัดส่วนบริหารเครื่องจักรกลทุกส่วนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับงานกำจัดวัชพืชโดยให้เร่งดำเนินการเก็บวัชพืชโดยเฉพาะผักตบชวาให้เสร็จโดยเร็วเพื่อป้องกันปัญหาจากการมีสิ่งกีดขวางในการระบายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคของประขาชน พร้อมทั้งเพื่อเป็นการเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำใช้ในการผลักดันน้ำเค็มที่กำลังรุกขึ้นสูงในขณะนี้
