เปิดภาพวงจรปิด คนร้ายควงปืน ชิงทรัพย์ร้านทอง ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ ได้ทอง 47 บาท มูลค่า 1.2 ล้าน
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง “ห้างทองเยาวราชกรุงเทพฯ” ตั้งอยู่ชั้นสองของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีซูเปอร์มาเก็ต หรือบิ๊กซีคลองแห เขตเทศบาลเมืองคลองแห อำเภอหาดใหญ่ กวาดทองรูปพรรณไปประมาณ 47 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ก่อนที่จะขับรถเก๋งหลบหนีไป คาดว่าคนร้ายมีสองคนก่อเหตุ 1 คนและขับรถ 1 คน
รายงานข่าว แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสสำคัญของคนร้ายซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทองเกิดเหตุ ขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุแล้ว โดยใช้เวลาลงมือแค่ประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น
โดยก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้เดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมาและเดินผ่านร้านทองเข้าไปในห้างเหมือนดูลาดเลาร้านทองก่อนว่ามีใครอยู่บ้าง และเพียงครู่เดียวได้มีลูกค้าซึ่งเป็นผู้ชายได้เดินเข้ามาในร้านทองถามเรื่องตั๋วจำนำทองว่าหลุดหรือยังแล้วเดินออกไป
จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้ามาในร้านทันทีและชักอาวุธปืนจากเอวออกมาขู่พนักงาน และกระโดดข้ามเค้าเตอร์เข้าไปเปิดตู้และกระชากทองรูปพรรณออกไป1ถาด กระโดดข้ามเค้าเตอร์นำทองใส่กระเป๋าหลบหนีลงไปทางบันไดห้าง ซึ่งขณะก่อเหตุมีลูกค้าที่เดินไปมาอยู่ในห้างด้วย
“ลักษณะของคนร้ายเป็นชายวัยกลางคนสวมกางเกงลายพรางทหาร สวมเสื้อแจ็คสีน้ำเงินเก็ตทับเสื้อยืดสีดำ สวมหมวกแก๊ปลายพราง สวมรองเท้าแตะสีน้ำเงินแบบเปิดส้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการแกะรอยหารายละเอียดและเบาะแสเพิ่มเติม”
รายงานข่าว แจ้งว่าเมื่อเวลา 19.00 น.เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เข้าตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายภายในร้านทองอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบการสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้สั่งการด่วนให้ชุดสืบสวนทุกชุดทั้งของ สภ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนภาค9 และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เร่งลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย โดยแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดทั้งภายในร้านทองเกิดเหตุ ภายในห้าง และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะขับรถหลบหนี
เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางหน้าห้างบิ๊กซีขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับผ่านเส้นทางหลังด่านตรวจด้านความมั่นคงซึ่งอยู่ก่อนถึงห้างบิ๊กซีประมาณ 100 เมตร และคาดว่าจะใช้เส้นทางลพบุรีราเมศวร์ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่หลบหนี
รายงานข่าว แจ้งว่าตำรวจะเรียกตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุทุกคนมาสอบสวน ลูกค้าที่เป็นผู้ชายที่เข้ามาสอบถามเรื่องตั๋วจำนำทองด้วย เพราะอยู่ในข่ายต้องสงสัยเช่นกัน
ด้านพล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ (อา-ชา-นะ) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้าย ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุยังไม่ทราบว่าเป็นปืนชนิดใด แต่คนร้ายไม่ได้ทำร้ายพนักงานแค่ใช้ปืนขู่เท่านั้น
รายงานว่าทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปนั้นมีน้ำหนัก 47 บาท มูลค่า 1,231,400 บาท
