เมื่อวันที่ 19 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งเปิดด่านตั้งแต่เวลา 07.00 น. ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากมาตรการคุมเข้มเรื่องการเข้า-ออกของประชาชนทั้งสองประเทศ ห้ามการเดินทางเข้า-ออกของประชาชนทั้งสองประเทศ ยกเว้นการส่งสินค้าไปมาระหว่าง 2 จังหวัด ซึ่งอนุญาตให้คนขับรถยนต์เพียง 1 คน เดินทางเข้าไปเท่านั้น และเมื่อเดินทางเข้าไป จะต้องเดินทางกลับภายใน 7 ชั่วโมง เนื่องจากต้องการควบคุมเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก มีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี ตั้งจุดสกัดอยู่ ผู้เดินทางเข้า-ออกจะต้องได้รับการตรวจและลงชื่อไว้เพื่อป้องกันและควบคุม หากพบว่ามีความเสี่ยงก็จะไม่ให้เดินทางเข้า-ออก
นายแฉล้ม อิ่มอุไร หัวหน้าด่าน เปิดเผยว่า รถยนต์ที่เข้า-ออกไปส่งสินค้าในพื้นที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ในแต่ละวันจะมีประมาณ 70 คัน โดยแต่ละคันที่จะเดินทางไป ผู้ขับรถยนต์จะต้องผ่านการตรวจความเสี่ยงและลงทะเบียนเข้า-ออกไปว่าเข้าไปในช่วงเวลาใด และต้องกลับเข้ามาภายใน 7 ชั่วโมง
นายแฉล้มกล่าวว่า ขณะนี้ทางฝั่งกัมพูชาได้ประสานในเรื่องสถานที่ที่จะไปส่งสินค้าให้สามารถไปได้เพียง 4 สถานที่คือ บริเวณโรงแรมเกาะกงอินเตอร์เนชั่นแนล, บริเวณตลาดจามเยี่ยม, บริเวณนิคมอุตสาหกรรม จ.เกาะกง และตลอดปากคลอง ในพื้นที่อำเภอมณฑลเสมา จ.เกาะกง โดยไม่ให้ข้ามสะพานไปยังตัวเมือง (เสาธง) จ.เกาะกง เนื่องจากกัมพูชาคุมเข้มไม่ให้คนไทยเดินทางไป รวมทั้งไม่ให้คนขับรถบนต์บรรทุกลงจากรถยนต์ส่วนสินค้าจะมีคนงานมาขนลงทั้งหมด จากนั้นให้เดินทางกลับทันที
คนขับรถยนต์ส่งของ 2 ราย ที่เดินทางไปส่งของในพื้นที่กำหนด โดยนายสัตยา คำสัตย์ เปิดเผยว่า ทุกวันที่เข้าไปส่งของ ทางเจ้าหน้าที่ของ จ.เกาะกง จะห้ามไม่ให้ลงจากรถยนต์ และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมระบุให้เดินทางกลับหลังส่งสินค้าเสร็จ
ขณะที่บรรยากาศที่ตลอดหาดเล็กเงียบเหงา ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา รวมทั้งชาวกัมพูชาก็ไม่เดินทางเข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังมีนักลงทุนชาวตราดลงทุนก่อสร้างโรงแรมและร้านกาแฟในพื้นที่ชายแดน ซึ่งสร้างไปกว่า 40% แล้ว
