วันที่ 30 สิงหาคม นายแพทย์ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง 13 อำเภอ เฝ้าระวังผู้ที่จะป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา หากมีผู้ป่วยที่มีอาการต้องสงสัยทั้งมีไข้ เป็นผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามตัว ให้มีการคัดแยกผู้ป่วยทันที เพื่อตรวจอย่างละเอียด หลัง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กับ จ.ลำปาง พบผู้ป่วยแล้วหลายราย ดังนั้น ทาง จ.ลำปาง จึงต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เนื่องจากเชื้อดังกล่าวมียุงลายเป็นพาหะของโรค ซึ่งในพื้นที่ จ.ลำปาง ได้ให้ อสม.กว่า 18,000 คน ออกเฝ้าระวังด้วยการเคาะประตูตามบ้านเรือนให้หมั่นกำจัดแหล่งเพราะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน ด้วยการคว่ำภาชนะที่มีน้ำท่วมขัง ที่มีลูกน้ำยุงลาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกไปด้วยพร้อมกัน
สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดในเดือนสิงหาคม 2559 นี้ จังหวัดทางภาคเหนือมีอัตราป่วยสูงสุดของประเทศ โดย จ.ลำปาง มียอดผู้ป่วยสูงเป็นลำดับที่ 6 ของประเทศไทยรองจาก จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พัทลุง สงขลา และเชียงราย ซึ่งในปีนี้ จ.ลำปาง พบผู้ป่วยแล้ว 478 ราย โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา จ.ลำปาง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 159 ราย ทำให้ทางจังหวัดต้องเข้มกำชับให้ทุกพื้นที่ร่วมกันป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มียอดผู้ป่วยชาวลำปางเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมืองลำปาง อ.แจ้ห่ม และเสริมงาม มียอดผู้ป่วยมากที่สุดในจังหวัด
จากการดำเนินงานสุ่มตรวจในแต่ละพื้นที่ของ จ.ลำปาง ยังพบว่าตามวัด โรงเรียน โรงแรม และโรงงาน ยังพบลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะพบตามภาชนะ หรือขยะรอบอาคารที่มีน้ำขังจากฝนที่ตกๆ หยุดๆ ช่วงนี้ ที่สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การแพร่พันธุ์ของยุงลาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะกำชับประชาชนมาก คือ ป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด และทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างจริงจังเป็นประจำ ขอให้ยึดหลักมาตรการ 3 เก็บ คือ เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก, เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย และเก็บน้ำ ปิดให้มิดชิดไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่ง 3 มาตรการนี้ จะสามารถป้องกันได้ 3 โรค ทั้งโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย เพราะหากสามารถทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้ จะช่วยลด และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคได้