สองพี่น้อง ร้องถูกกำนันบุกทำร้าย-ยิงขู่ถึงในบ้าน กำนันโต้หนังคนละม้วน มีพยานชัด
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า พบมีการแชร์ภาพของหญิงที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผล บริเวณท่อนแขนซ้ายและแผ่นหลังด้านซ้าย มาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานที่ สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ระบุข้อความลง facebook ว่า “คุณเป็นกำนันจะทำแบบนี้ไม่ได้ยิงปืนขู่ไปอีก กลัวจัดเลย ชาวบ้านก็ร่วมแจม ตัวอย่างใหญ่รังแกผู้หญิง ประจันตคามซิตี้ บ้านไผ่”
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อหญิงสาวที่ลงเฟซบุ๊คเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการสอบถามหญิงสาวในภาพชื่อ นส.อัยลดา มีชัย อายุ 28 ปี น.ส.วนิสรา มีชัย อายุ 25 ปี ชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
ทั้งสอง กล่าวว่า ช่วงบ่ายจะเดินทางไปร้องทุกข์ เพื่อขอความเป็นธรรมกลับศูนย์ดำรงธรรม อ.ประจันตคาม ขอให้ทางอำเภอได้สอบสวนผู้ก่อเหตุเป็นซึ่งกำนัน เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.00 น. ตนกับน้องสาวคนรองจะมาพูดคุยกับน้องสาวคนกลางเรื่องรถยนต์ฮอนด้าซีวิคสีเทาหมายเลขทะเบียนป้ายแดง ศ 9696 กทม. ซึ่งตนเป็นผู้ซื้อรถคันดังกล่าวมาแต่น้องสาวคนรองเอามาใช้และไม่ได้ส่งค่างวดมาเจรจาที่บ้าน
ขณะพูดคุยกันอยู่นั้นน้องสาวคนกลางได้เดินมากระซิบบอกย่า เรื่องอะไรไม่รู้ ว่าฟ้องย่าเรื่องอะไร ย่าเดินเข้าตี ตนเอง ไม่ได้สู้ผู้เป็นย่าแต่ได้ยกมือป้องไม่ให้ย่าตีตนที่ทะเลาะกับน้อง แต่ว่ามีการสะดุดล้มน้องสาวคนรองได้เข้ามาห้าม
ต่อมากำนันเข้ามาสอบถามและห้ามไม่ให้ทะเลาะกัน ขณะนั้นกำนันได้เข้ามาในบ้านยิงปืนขู่ไม่รู้ว่ายิงปืนขึ้นฟ้าหรือยิงไปทางไหน และได้ตามเข้าไปที่ห้องของ น.ส.วนิสรา ได้ตบหน้าและทำร้ายโดยใช้เก้าอี้ตีจนหัก ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บที่แผลและแขน และมีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามา ตนจึงพากันหนีออกจากบ้านมาแจ้งความไว้ที่สภ.และได้ไปพักอยู่ที่บ้านแฟน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนคิดว่ากำนันใช้อำนาจเกินหน้าที่ จึงมายื่นหนังสือร้องทุกข์ที่ว่าการอำเภอผ่านทางศูนย์ดำรงธรรม ขอให้สอบสวนกำนันว่าใช้อำนาจหน้าที่ทำร้ายประชาชน
ด้านนางทัศพร มีชัย (ผู้เป็นย่า) กล่าวว่า เมื่อคืนหลานสาวได้ทำร้ายร่างกายตน ผลักตนล้มลงได้รับบาดเจ็บที่หลังและศีรษะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าหลานคิดอย่างไรถึงทำร้ายตนทั้งที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก
ขณะที่นายอัมรินทร์ เรียนศรีกำนัน ต.หนองแก้ว เปิดเผยว่า ตามที่บุคคลทั้งสองได้กล่าวหาว่าตนและลูกบ้าน เข้าไปทำร้ายร่างกายในบ้านและยิงปืนในบริเวณบ้านของทั้งสองนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งตนเองมีพยานหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์
ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อยากขอชี้แจงกับสื่อมวลชนว่าตนเองไม่ได้ทำร้ายและยิงปืนขู่ลูกบ้านทั้งสองแต่อย่างใด ตนเองได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่มีคนนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊คทำให้ตัวเองเสียหาย มีผู้เข้ามาคอมเม้นต์ว่าตนเองในทางเสียหายและเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้ตนได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีพรบ.คอมพิวเตอร์ ขอยืนยันว่าตนไม่ได้ทำร้ายลูกบ้านแค่มาห้ามไม่ให้ทะเลาะกันเท่านั้น
