ชาวบ้านหนีโควิดเข้าป่าหาผักอีลอก ทำอาหารเหลือขายสร้างรายได้เสริม
วันที่ 23 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่เกิดฝนตกต่อเนื่องทำให้สภาพผืนป่าชุมชนบ้านตลิ่งชัน กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นช่วงฤดูแล้งมาแล้ว ส่งผลดีต่อชาวบ้านในชุมชน เนื่องจากเริ่มมีอาหารป่าตามฤดูกาลให้ชาวบ้านได้ออกหานำกลับมาประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว ลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เลือกที่จะเข้าไปหาเก็บวัตถุดิบในธรรมชาติมาประกอบอาหาร แทนการที่จะต้องออกไปจับจ่ายหาซื้อตามท้องตลาด เนื่องจากในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19
อย่างเช่นนางสาวบุหงา ระมัดครบุรี อายุ 38 ปี หนึ่งในชาวบ้านบ้านตลิ่งชัน ก็ได้พาครอบครัวออกไปหาเก็บต้นกะบุกป่า หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าผักอีลอก เพื่อนำกลับมาประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว และจำหน่ายเป็นรายได้เสริม
โดยนางสาวบุหงาฯ บอกว่า กระบุกป่า หรือผักอีลอก จะมีให้ได้เก็บหลังจากที่เกิดฝนตกชุกต่อเนื่อง และในปีนี้ฝนมาเร็วกว่าปกติ ผักอีลอกก็ไวกว่าปกติเช่นเดียวกัน โดยวิธีการหาก็ง่ายๆด้วยการเดินหาและดึงเก็บแล้วนำกลับไปเท่านั้น แต่ต้องเลือกหาเก็บเอาที่เฉพาะที่โตพอ และไม่ต้องขุดเอาถึงเหง้า เพราะส่วนหนึ่งจะทิ้งเอาไว้เพื่อให้ได้เติบโตอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
หลังจากที่ได้ต้นกะบุกป่ามา ก็จะนำมาปลอกเปลือกนอกออก เพราะเปลือกของกะบุกป่าจะแข็งเปื่อยยากและทำให้เกิดอาการคัน เมื่อปลอกเปลือกเสร็จแล้วก็จะนำมาต้มกับมะขามเปียกจนเปื่อยเพื่อลดความคันของกระบุก ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบต่อกันมา จากนั้นก็จะทำมาแกงด้วยพริกแกง น้ำปลาร้าและเครื่องปรุงต่างๆ แล้วใส่ใบมะขามอ่อนเพื่อความเปรี้ยว ตามด้วยปลาป่นเพิ่มความนัว ตบท้ายด้วยใบแมงลัก ก็จะได้แกงกะบุกป่าสูตรดังเดิมที่หอมอร่อยแบบฉบับวิถีชาวบ้านในชนบท ส่วนใครที่หาได้จำนวนมาก ก็จะนำมาจำหน่ายภายในหมู่บ้าน ด้วยการแบ่งเป็นถุงถุงละ 20 – 30 บาท ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเป็นช่วงแรกของปีที่จะได้กินกะบุกกัน
