ผู้การฯนนท์ ให้ตำรวจใช้ดุลพินิจ ดูเจตนาเป็นหลัก ปมค่าปรับไม่ใส่แมสก์

ผู้การฯนนท์ ให้ตำรวจใช้ดุลพินิจ ดูเจตนาเป็นหลัก ปมค่าปรับไม่ใส่แมสก์

เมื่อวันที่ 27 เมษายน พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า เรื่องคำสั่งให้ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ดุลพินิดูเจตนาเป็นหลัก เพราะค่าปรับแพงขั้นต่ำครั้งแรก 6,000 บาท ครั้งที่ 2 12,000 บาท ครั้งที่ 3 20,000 บาท คือกฎหมายเรื่องนี้ในมาตรา 34 มีหลายข้อ โดยเฉพาะมาตรา 34 วงเล็บ 6 ให้อำนาจผู้มีหน้าที่ออกมาตรการต่างๆ และการออกมาตรการเกี่ยวกับเรื่องใส่แมสก์เกี่ยวกับคนเป็นล้านๆ คน

พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า บางคนอาจจะไม่มีเจตนา แต่โทษที่ได้รับโดนปรับเลย มันเป็นผลเสีย ฉะนั้นเอาว่าใช้วิจารณญาณในการใช้ดุลพินิจ แต่ไม่ถึงกับขั้นที่เจ้าหน้าที่ต้องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตนเลยบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ใช้ดุลพินิจให้มาก เพราะจะกลายเป็นไปซ้ำเติมความเดือดร้อนให้คนอื่น ถ้าเขาไม่ได้ถึงขั้นมีเจตนา เพราะในภาวะเช่นนี้ อย่าไปซ้ำเติมคนที่เขาเดือดร้อนอยู่แล้ว เพราะการลงโทษครั้งแรกปรับ 6,000 บาท มันก็หนักหนามาก ครั้งแรกก็สามารถปรับในชั้นโรงพักได้ 6,000 บาท ครั้งที่สองที่สามก็ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 20,000 บาท เรื่องนี้เป็นกฎหมายเฉพาะ มีโทษปรับสถานเดียว ซึ่งผู้มีอำนาจได้มอบอำนาจไว้ให้ตำรวจในการปรับ เอาว่าดูเจตนาเป็นหลักเพราะเป็นข้อบังคับใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศ

พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวอีกว่า ถึงได้กำชับตำรวจที่ปฏิบัติให้ดูเจตนาเป็นหลัก ดูการกระทำผิดเป็นหลัก เช่น เขามีแมสก์พกติดตัวอยู่แต่เผลอลืมใส่แป๊บเดียว บางทีคนเราก็เผลอ ไม่มีเจตนา ไม่ใช่ลืมใส่แป๊บเดียวไปจับ ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถ้าเตือนแล้วให้ใส่หน้ากาก เขาก็ใส่ แบบนี้ไม่ว่ากัน ถ้าเตือนแล้วใส่ไม่ได้ ก็ต้องจับกุมดำเนินคดี ถือว่ามีเจตนาที่จะไม่ใส่หน้ากากอนามัย ดุลพินิจจะมาพร้อมกับเจตนา ต้องดูว่าเขาเจตนากระทำความผิดในเรื่องนี้ไหม ดูเจตนาเป็นรายๆ ไป

พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า พ.ร.บ.จราจร สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้เพราะเขียนไว้ แต่กฎหมายนี้ไม่ได้เขียนไว้ ต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก ตำรวจจะไม่ไปซ้ำเติมใครให้เดือดร้อน เพราะเชื่อว่าทุกคนก็อยากจะใส่หน้ากากกันอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ยกเว้นบางคนตะแบงไม่ยอมใส่ แต่ในกฎหมายมีอยู่วรรคหนึ่ง ที่พนักงานสอบสวนสามารถปรับน้อยกว่าได้ถ้ามีเหตุผลพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามต้องปรับไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม เช่น โทษ 6,000 บาท ก็ต้องปรับ 2,000 บาท ผมดูและศึกษากฎหมายฉบับนี้โดยละเอียดแล้วและให้แนวทางการปฏิบัติแล้ว เจตนาของกฎหมายเป็นการปรามคนช่วยกันใส่หน้ากากอนามัย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image