จากกรณีเกิดการสู้รบกันอย่างหนัก ตั้งแต่เช้ามืดที่ชายแดนด้านตะวันตกของไทยบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อกองกำลังติดอาวุธในสังกัด สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) เปิดฉากรุกโจมตีที่ตั้งค่ายทหารเมียนมา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างไทยกับเมียนมานั้น
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (27 เมษายน) นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 อำเภอแม่สะเรียง ติดตามสถานการณ์และแถลงข่าวต่อสิ่อมวลชน ว่า จากเหตุการณ์สู้รบของเคเอ็นยูกับทหารเมียนมา ทำให้มีราษฎรได้รับผลกระทบ 1 ราย คือนางเดมึ ซึ่งบัตรบุคคลเป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ชาว ต.แม่สามแลบ ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนเล็ก 1 นัด กระสุนฝังเหนือเข่าซ้าย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สะเรียง และส่งตัวไปผ่าตัดกระสุนที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน
นายสิทธิชัยกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้อพยพชาวบ้านบ้านแม่สามแลบประมาณ 350 คนไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่บ้านห้วยกองก๊าดแล้ว โดยมีฝ่ายปกครองและตำรวจภูธรสบเมยอำนวยความสะดวกให้การช่วยเหลือ
นายสิทธิชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีคำสั่ง ปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านแม่สามแลบ และงดการเดินเรือในแม่น้ำสาละวิน ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.เป็นต้นไป และห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ส่วนถ้ามีการลักลอบหลบหนีภัยความไม่สงบเข้ามาฝั่งไทย ให้เจ้าหน้าที่นำไปอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราว พื้นที่แรกรับ ซึ่งทหารจะเป็นผู้ดูแลบริเวณชายแดน และให้มีการคัดกรองโควิดด้วย
อ่านข่าว : กองกำลังกะเหรี่ยง KNU เปิดฉาก บุกตีฐานพม่า ฝ่ายความมั่นคงปิดกั้นพื้นที่ หวั่นอันตรายจากการสู้รบ
– ปะทะเดือด! กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยูถล่มยึดที่มั่นทหารเมียนมา เผยฝั่งไทยเจ็บ 1
“ถ้ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ก็จะเข้ามายังพื้นที่พักรอ ห่างจากชายแดนประมาณ 1 กม. โดยภาครัฐและองค์กรการกุศลเอกชนที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีการประกาศรับบริจาคการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ แต่จะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
“ถ้าหากมีจำนวนผู้อพยพมากจนเกินความสามารถที่ทหารจะดูแล ก็จะร้องขอทางจังหวัดเพื่อประกาศรับบริจาคช่วยเหลือต่อไป” นายสิทธิชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดได้รับรายงานความสูญเสียของทหารกะเหรี่ยง เสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 6 นาย ส่วนทหารเมียนมาสูญเสียไม่ต่ำกว่า 20 นาย
