รพ.บึงกาฬ วุ่นทั้งวอร์ด พบผู้ป่วยผ่าตัดตาติดโควิด ผู้ว่าฯสั่งผู้ไม่สวมแมสก์ออกนอกบ้าน ปรับไม่เกิน 2 หมื่น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬ เพื่อหารือยกระดับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมี รอง ผวจ. หน่วยงานสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอทุกอำเภอ ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

โดยมีมติให้ผู้ว่าฯออกคำสั่งให้ประชาชนทั่วไป ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานประเภทอื่นในหน่วยงานของรัฐ และบุคลากรภาคเอกชนทุกคนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ถือปฏิบัติตามมาตรการ โดยสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องและถูกวิธีเพื่อลดการแพร่ระบาด เมื่อออกนอกเคหสถานหรือที่พักของตน เมื่อเข้าไปในสถานที่แออัด หรือไปยังสถานที่อื่นๆ ที่มีผู้คนและต้องพบปะผู้อื่น ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 รวมระยะเวลา 14 วัน

Advertisement

นอกจากนี้ นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มีผู้ติดเชื้อสะสม 14 ราย รักษาหาย 3 ราย อยู่ระหว่างรักษา 11 ราย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยัน รายที่ 14 เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี ภูมิลำเนา ต.โป่งเปือย อ.เมืองบึงกาฬ ตรวจพบเชื้อหลังจากทำการผ่าตัด ผลตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี ยืนยันผลเป็นบวก ทีมเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนโรคแล้ว มีผู้สัมผัสร่วมบ้านต้องกักตัว 6 ราย และบุคลากรทางการแพทย์กักตัว 13 ราย

นพ.กมล แซ่ปึง ผอ.รพ.บึงกาฬ กล่าวว่า กรณีรายที่ 14 เป็นหญิงพิการตาบอดสนิทข้างหนึ่ง เข้ามารักษาด้วยโรคต้อกระจกที่โรงพยาบาลบึงกาฬ ซึ่งก่อนการผ่าตัดทางโรงพยาบาลได้ส่งตรวจหาเชื้อโควิดก่อนทุกราย ยกเว้นเหตุด่วนฉุกเฉินก็จะตรวจแค่ Rapid antigen test (แบบเร่งด่วน)

นพ.กมลกล่าวว่า วันดังกล่าวหมอมีคิวผ่านตัดจำนวน 9 ราย ผลตรวจผู้ป่วยรายนี้มีปัญหาว่าผลออกไม่ทันก่อนการผ่าตัด จึงตรวจแบบ Rapid antigen test (แบบเร่งด่วน) ผลออกมาเป็นลบ จึงนำตัวเข้าผ่าตัดตามคิว ซึ่งระหว่างการผ่าตัด ผลตรวจ PCR (แบบละเอียด) ออกมาเป็นบวก แต่หมอก็ต้องผ่าตัดให้เสร็จ หลังผ่าตัดเสร็จได้แยกผู้ป่วยเข้าไปรักษาโรคโควิด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้มีทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยผ่าตัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่อยู่ประจำวอร์ดตาจำนวน 13 ราย ทางโรงพยาบาลต้องนำเข้ากักตัวทันที

Advertisement

“ผู้ป่วยรายนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับประชาชนทุกคนได้ เนื่องจากผู้ป่วยพิการสายตาไม่ออกไปไหน แต่บางทีถึงจะไม่ได้ออกไปไหนมาไหน แต่ก็มีคนมาเยี่ยมเยือนเอาเชื้อโรคมาหย่อนให้เราถึงที่บ้านได้ ขอฝากพี่น้องประชาชนทุกคนด้วยความเป็นห่วงจากแพทย์

“ถ้ามีแขกที่เดินทางมาเยี่ยม โดยเฉพาะจากจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ หนึ่งในแนวทางการป้องกันให้คิดเสมอว่าทุกคนที่มาเยี่ยมเราที่บ้านทุกคนอาจมีเชื้อโควิดก็ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีมาตรการป้องกันตัวเอง คือสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงไม่ทานอาหารร่วมกัน โดยเฉพาะการใช้แก้วน้ำร่วมกัน ดื่มเหล้าด้วยกัน

“อะไรเหล่านี้ไม่ควรกะทำเป็นอย่างยิ่ง ขอให้ตระหนักว่าทุกคนมีโอกาสติดโควิดได้เสมอ ดังนั้น ต้องป้องกันตัวเองตามมาตรการ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างไม่อยู่ใกล้ชิดกับคนอื่นโดยไม่จำเป็น ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image