วันที่ 1 กันยายน นายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำตะคอง หลังจากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่มีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เขื่อนลำตะคองนั้นมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ล่าสุดเขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 59 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ ของความจุกักเก็บ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนมานั้นตนเองคิดว่ายังไม่ช่วยในการเติมน้ำในเขื่อนเท่าที่ควร เพราะปริมาณฝนที่ตกลงมาส่วนใหญ่นั้นยังคงตกลงมาในพื้นที่ท้ายเขื่อนเป็นส่วนใหญ่ แต่หากคิดในมุมของเกษตรกรก็จะเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ท้ายเขื่อนก็มีน้ำใช้ในการเพาะปลูกข้าว โดยที่ไม่ต้องรอให้ทางเขื่อนลำตะคองจัดส่งน้ำออกไปช่วยเหลือ อีกทั้งก็ยังส่งผลดีต่อโรงผลิตน้ำประปาในพื้นที่ท้ายเขื่อนที่มีอยู่กว่า 100 แห่ง ที่สามารถสูบน้ำจากปริมาณฝนที่ตกลงมาเข้าแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการผลิตน้ำประปา ทำให้ล่าสุดทางเขื่อนลำตะคองสามารถลดปริมาณน้ำต้นทุนที่จัดส่งออกมาจากเขื่อนจากเดิม เฉลี่ยอยู่ที่ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละ 432,000 ลูกบาศก์เมตร เหลือเพียงวันละ 172,800 ลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม นายสุทธิโรจน์กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และเขื่อนลำตะคองจะสามารถรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นนั้นจะอยู่ในช่วงกลางเดือนกันยายนของทุกๆ ปี ที่จะมีปริมาณฝนที่ตกลงมากกว่าปกติ ซึ่งก็จะสอดคล้องกับการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ได้คาดการณ์ว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2559 เป็นต้นไปในพื้นที่จะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น