วันที่ 1 กันยายน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ รายงานสภาพอากาศว่า ภาคเหนือตอนบน มีเมฆมาก และฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยาและน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส สูงสุด 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปริมาณฝนมากสุดที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน วัดได้ 22.2 มิลลิเมตร และยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง 19.3 มิลลิเมตร
นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ เผยว่า ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีฝนตกและน้ำไหลเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง 39 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล.ลบ.ม.) ทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มเป็น 91.59 ล.ลบ.ม. หรือ 34.56% ของความจุ 265 ล.ลบ.ม. แต่ปล่อยน้ำเพื่อทำนาปี 26 ล.ลบ.ม. หรือคิดเป็น 95% ของพื้นที่ทำนาทั้งหมด
ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด มีน้ำไหลเข้า 21 ล.ลบ.ม. ทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มเป็น 45.81 ล.ลบ.ม. หรือ 17.42 % ของความจุ 263 ล.ลบ.ม.แต่ปล่อยน้ำทำนา 23 ล.ลบ.ม. หรือคิดเป็น 60% ของพื้นที่ทำนาทั้งหมด ถ้ารวม 2 เขื่อนใหญ่ มีปริมาณน้ำรวม 137.40 ล.ลบ.ม. หรือ 26.02% ของความจุเขื่อนทั้งหมด ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 15 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 28% อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 115 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 29% ของความจุทั้งหมด
นอกจากนี้ ชลประทานได้ระบายน้ำเข้าคูเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่แจ่งหัวลิน จนถึงแจ่งศรีภูมิ เพื่อผันน้ำออกสู่แม่น้ำปิง และรักษาระดับน้ำไม่ให้มีผลกระทบต่อโบราณสถาน รวม 20,000-30,000 ลบ.ม. หรือ 60% ของคูเมืองด้านทิศเหนือทั้งหมด ส่วนที่เหลือรองรับน้ำฝน น้ำป่าที่ไหลหลากจากเชิงดอยสุเทพ ที่ไหลเข้าคูเมือง และลำคูไหว เป็นมาตรการหนึ่งป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่
“ภาพรวมช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ ปริมาณฝนเริ่มลดลง เนื่องจากไม่มีร่องมรสุมขนาดใหญ่พัดผ่าน เป็นฝนตกตามปกติ แต่อาจมีร่องมรสุมพัดผ่านช่วงปลายกันยายนนี้อาจมีฝนตกจนถึงปลายตุลาคม ก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ต้นพฤศจิกายนนี้ ซึ่งชลประทาน ทำการระบายน้ำพื้นที่เกษตร เพื่อเสริมน้ำฝนเท่านั้น หากมีปริมาณฝนเพียงพอ ก็หยุดระบายน้ำ เพื่อกักเก็บไว้ไช้ในฤดูแล้งปีหน้า” นายเจนศักดิ์กล่าว
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ฤดูฝนส่งผลดีต่อพื้นที่การเกษตร และปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำมีมากขึ้น ทำให้ทัศนียภาพสวยงาม หากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ททท.สามารถจัดกิจกรรมทางน้ำได้หลากหลาย อาทิ ขี่ช้าง ล่องแพ นั่งเกวียนชมวิถีชีวิตชุมชนที่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.แม่วาง และล่องเรือลำน้ำปิง ส่วนเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จัดพายเรือ และเข้าไปเที่ยวชมเรือนแพที่มีอยู่กว่า 20 แห่งได้
“ช่วงฤดูฝนที่เป็นกรีนซีซั่น ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวทัวร์ป่า ปางช้าง จำนวนมาก โดยเฉพาะชาวอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและเอเชีย โดยเฉพาะจีนที่มีสายการบินตรงสู่เชียงใหม่ ซึ่ง ททท.เสริมงานมหกรรมสานศิลป์ถิ่นอาเซียน ที่มีผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน พร้อมเสริมท่องเที่ยววัฒนธรรมชนเผ่าและวิถีชีวิตบนพื้นที่สูง เพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน ซึ่งช่วงกรีนซีซั่นสร้างรายได้ให้เชียงใหม่วันละ 100-120 ล้านบาท” นายวิสูตรกล่าว