เมื่อเวลา 11.15 น. วันนี้ (3 พฤษภาคม) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี และ นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดปัตตานีระลอกใหม่ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนเพิ่มความปลอดภัยในการระวังการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และอธิบายการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของจังหวัดปัตตานี และสอดคล้องกับคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดปัตตานีวันนี้เพิ่มขึ้น 6 คน ผู้ป่วยสะสม รวม 103 คน นอนรักษาตัว รพ.ปัตตานี 29 คน, รพ.สนาม 61 คน, รพ.ค่ายฯ 1 คน, และอยู่ระหว่างการพิจารณา Admit 5 คน และผู้ป่วยที่หายแล้ว จำนวน 6 คน
ขณะที่คนไทยกลับจากประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันถูกกักตัว 330 คน กักตัวสะสม 604 คน พร้อมทั้งวางมาตรการป้องกันควบคุมและยกระดับความเข้มข้นขึ้น เนื่องจากล่าสุดยังพบว่าในช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 8 อำเภอ
ซึ่งทางจังหวัดปัตตานีจึงวางมาตรการป้องกันไปแล้ว 3 มาตรการคือ 1.ป้องกันควบคุมการเข้าออก ผู้เดินทางเข้าตัวจังหวัดต้องรายงานตัวที่ด่านตรวจที่ตั้งไว้ทั้ง 11 จุด 2.เป็นหน้าที่ของทุกคนที่เข้ามาต้องรายงานตัวและคัดกรองที่ศูนย์ รพ.สต.ใกล้บ้านให้ปฏิบัติโดยเคร่งครัด และ 3.การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มไม่เกิน 20 คน งดปฏิบัติศาสนกิจและกิจกรรม
รวมทั้งวันนี้ได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดลุกลามไปมากกว่านี้ ประกอบด้วย
1.บุคคลเข้ามาปัตตานีจากทุกจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงจะต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ จึงเพิ่มด่านตรวจทุกช่องทางที่เข้าปัตตานี ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดปัตตานีให้ปฏิบัติ ดังนี้
(1) ให้รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเวลาราชการ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน (ตลอด 24 ชั่วโมง) ทันทีที่เดินทางถึงภูมิลำเนา หรือที่พักอาศัยในจังหวัดปัตตานี
(2) ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติคต่อพิจารณาดำเนินการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาตามข้อ 1 (1) และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการป้องกันโรค
(3) ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดตามข้อ 1 (1) สังเกตอาการผิดปกติ หากมีไข้ และอาการทางเดินหายใจ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้รีบพบแพทย์โดยทันที
(4) ให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรค (D-เว้นระยะห่างระหว่างกัน, M-สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า, H-ล้างมือบ่อยๆ, T-ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย, T-ตรวจหาเชื้อโควิด-19, A-ติดตั้งและใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ) โดยเคร่งครัด
2.ขอความร่วมมือประชาชนงดออกนอกเคหสถาน หรือที่พำนัก ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุสิ่งพิมพ์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรก่อสร้าง การไปรษณีย์ กู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล รถขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันการเงิน การประกอบอาชีพซึ่งจำเป็นต้องกระทำภายในช่วงเวลาพิเศษ
การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ผู้เดินทางโดยอากาศยานหรือโดยสารสาธารณะอื่นเมื่อเดินทางถึงแล้วให้กลับที่พักทันที หรือผู้มีเหตุจำเป็นอื่นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้
3.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
4.ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน เว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่
5.ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น.
6.ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านเกม และร้านอินเตอร์เน็ต โดยให้ปิดสถานที่ดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
และ 7.ขอความร่วมมือการงดปฏิบัติศาสนกิจและกิจกรรมในเดือนรอมฎอนที่มัสยิด (ฉบับที่ 4/2564) ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2564 จึงขอให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด และอิหม่ามประจำมัสยิด ให้ถือปฏิบัติตาม ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วยการงดปฏิบัติศาสนกิจและกิจกรรมในเดือนรอมฏอนที่มัสยิด (ฉบับที่ 4/2564) ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2564 โดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯปัตตานียังเน้นย้ำการขอความร่วมมือชาวมุสลิมให้งดปฏิบัติเรื่องศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฎอนที่มัสยิดว่า ขอให้ปฏิบัติงานตามประกาศหรือข้อกำหนดของสำนักงานจุฬาราชมนตรีโดยเคร่งครัด เพราะขณะนี้ถือว่าเรามีตัวเลขเกินเกณฑ์แล้ว จึงขอให้คณะกรรมการมัสยิด และคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ให้ความร่วมมือทุกมัสยิดด้วย
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือ ให้ปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวัง ให้ทุกคนอยู่กับบ้านให้มากที่สุด สวมใส่แมสก์ ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงห้ามออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้มากกว่านี้ ยืนยันว่ายังไม่มีการล็อกดาวน์ หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็จะใช้มาตรการเข้มข้นตามกฎหมายบังคับต่อไป