ฉาวหนัก! พระตั้งวงซดเหล้าเมาได้ที่ตีกันยับ หน้าแหก เลือดอาบ คาวัด วัดแอลกอฮอล์สูงปรี๊ด
ชัยภูมิ – พระกลัวความผิด รีบขับเก๋งหนีออกจากวัด แต่เมาหนักขับชนแหลกทั้งประตูวัด รถ จยย.ชาวบ้านจอดอยู่ใกล้เคียงพังยับ ก่อน ตร. มาถึงถูกควบคุมมาสอบเป่าแอลกอฮอล์สูงกว่ารายละ 150-254 มิลลิกรัม ทั้ง 4 รูป ก่อนพาตัวไปสึกควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป!
กรณีพระเมาตีกันทำฉาวหนักในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ร.ต.ท.หญิง สุพิชชา กุนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุการณ์พระทำร้ายร่างกายกันภายในวัดท่าเสี่ยว บ้านเสี้ยวใหญ่ ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมสายตรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบพระทั้ง 3 รูป ที่ยังมีอาการเมาหนักและพยายามขับรถเก๋ง หลบหนี ยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กย 652 นครราชสีมา จอดอยู่ริมทางด้านหน้าวัด ซึ่งรถมีรอยชนที่กันชนหน้าแตก ไฟหน้าแตกเสียหาย รวมถึงกระโปรงหน้ายุบเสียหาย และมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ อาร์ซี 100 ซีซี สีแดงคาดขาว หมายเลขทะเบียน กลง 773 บุรีมรัมย์ ล้มคว่ำอยู่ที่ริมถนน ภายในวัดยังพบหลวงพ่อบุญถม ทันตา อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าเสี้ยว บ้านเสี้ยวใหญ่ มีบาดแผลที่คิ้วซ้ายแตก และปากแตก รวมทั้งที่บริเวณแก้มมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง และมีพระหนุ่มอีก 3 รูป ที่อยู่ในอาการเมา นั่งอยู่บริเวณวัด
เมื่อชาวบ้านใกล้วัดทราบข่าวได้พากันมายืนดูภายในบริเวณวัดจำนวนมาก ที่บริเวณประตูทางเข้าวัด พบบานประตูเหล็กถูกรถเก๋งชนจนประตูเหล็กล้อเลื่อนพังล้มคว่ำขวางอยู่บริเวณประตูวัด ซึ่งชาวบ้านที่มายืนดูต่างไม่พอใจที่พระกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมทำฉาวหนักต่อพระพุทธศาสนา ที่พากันมานั่งตั้งวงเหล้าดื่มสุราในวัดยังไม่พอ ยังมีการเมาทะเลาะวิวาทกันเองในวัดจนไม่เหลือสภาพความเป็นพระได้ขนาดนี้
ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวพระภิกษุทั้ง 4 รูป ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมให้เป่าวัดหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ก็พบว่าพระทั้ง 4 รูปล้วนแต่ค่าปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พระทุกรูปวัดได้สูงกว่ารายละตั้งแต่ 150- 254 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกฎหมายกำหนดห้ามขับรถ
โดยเฉพาะพระสมมิตร วัดได้สูงกว่า 254 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ที่เป็นพระมาจากวัดอื่นที่ได้ดื่มเหล้าขาว 40 ดีกรี ในขณะฉันเพลร่วมกับเจ้าอาวาส แล้วเมาหนักจนพูดไม่ถูกหูกัน เกิดการชกต่อยทำร้ายร่างกายเจ้าอาวาสจนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบ
และกลัวความผิด ก่อนที่จะรีบขับรถเก๋งดังกล่าวหลบหนีออกจากวัด แต่เมาหนักขับไปชนทั้งประตูรั้ววัด และชนรถ จยย.ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดพังเสียหายอีกหลายคัน ก่อนที่ จนท.จะมาถึงและควบคุมตัวไว้ได้ทัน
สอบถามไปยังชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่ภายในวัด จึงออกมาดู พบพระอยู่ในอาการมึนเมา ก่อนที่จะขับรถออกมาชนรถชาวบ้าน และประตูวัดพัง รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ขณะที่พระวิรัตน์ เตชาธิโก อายุ 55 ปี เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนและพระอีก 2 รูป รวมทั้งเจ้าอาวาส รวม 4 รูป ขณะนั่งฉันเพลได้นำเหล้าสุราขาว 40 ดีกรี มาฉันด้วย และก็เริ่มเมามีปากเสียงกันกับเจ้าอาวาส ก่อนที่ตนเองมีอาการเมาแล้ว จึงได้ขอตัวไปนอน ระหว่างนั้นตื่นมาอีกที พบพระสมมิตรได้ชกต่อยเจ้าอาวาสวัด หลังจากนั้นตนและพระอีก 2 รูป ก็รีบขับรถเก๋งหลบหนี เพราะกลัวความผิดที่พากันดื่มสุราและเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันในวัด แต่เจ้าหน้าที่มาถึงวัดก่อนและถูกควบคุมตัวไว้
ส่วนหลวงพ่อบุญถม ทันตา อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัดท่าเสี้ยว บ้านเสี้ยวใหญ่ เล่าว่า น่าจะเกิดจากหลวงพ่อเมาเหล้าแล้วพูดออกไปไม่เข้าหูพระสมมิตร ที่เป็นพระต่างวัดเข้ามาฉันเพลด้วย ก่อนจะมีการชกต่อยตนเองจนได้รับบาดเจ็บครั้งนี้
ต่อมาทาง ร.ต.ท.หญิง สุพิชชา กุนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และนำพระทั้ง 4 รูป ไปสอบสวนและวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบว่าพระทั้ง 4 รูปมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่ากฎหมายกำหนด ก่อนที่จะนำพระทั้ง 4 รูปไปสึกและควบคุมตัวมาดำเนินคดี ในเบื้องต้นทั้งข้อหาเมาสุราก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนทำให้ผู้อื่ได้รับบาดเจ็บ และทำให้ทรัพย์สินวัด และรถ จยย.ชาวบ้านเสียหาย ตามกฎหมายต่อไป
