ชาววังจันทร์นับร้อย รวมตัวไม่เอารง.แปรรูปยางพารา หวั่นสวนผลไม้รับมลภาวะ

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง นายพิรุณ วิมลอักษร นายอำเภอวังจันทร์ เป็นประธานการประชุมเรื่องการก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราของสหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด พื้นที่หมู่ 2 ต.วังจันทร์ หลังประชาชนที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยมีนายไชยา บุญญานุภาพ สหกรณ์จังหวัดระยอง นายเรวัติ แสงวารินทร์ ประธานสหกรณ์ นายธงชัย บุญก่อเกื้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังจันทร์ นายปิตินันท์ อักษร วิศวกรชำนาญงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง นายเฉลา ฉิมภู ประธานสหกรณ์จังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมประชุม

นายไชยาชี้แจงว่า การก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราของสหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด พื้นที่ประมาณ 39 ไร่ งบประมาณ 120 ล้านบาท เนื่องจากเกษตรกรผลิตยางก้อนถ้วยล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ สหกรณ์นิคมจึงมีความจำเป็นตั้งโรงงานเอสพีอาร์ 20 คือนำยางก้อนถ้วยมาตีให้ละเอียดก่อนนำไปนึ่ง ผ่านกระบวนการความร้อน นำไปอัดแท่งป้อนโรงงานผลิตยางรถยนต์ จึงได้ไปดูโรงงานที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบไม่มีมลภาวะ ระบบปิด ไม่มีกลิ่น มีระบบการจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย โดยสหกรณ์นิคมวังไทรขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบโรงงาน ซึ่งเป็นโรงงานระบบปิด นำน้ำเสียไปบำบัดแล้วหมุนเวียนกลับมาโดยไม่ทิ้งน้ำออกนอกโรงงานเด็ดขาด ลักษณะอาคารโรงเก็บยางขนาด 200 ตัน เมื่อมีก๊าซลอยขึ้นมามีเครื่องดูดอากาศบำบัดและฟอกก๊าซให้สะอาด เพราะฉะนั้นจะไม่มีกลิ่นเหม็น หากโรงงานนี้ก่อสร้างได้จะเป็นประโยชน์แก่สมาชิกสหกรณ์เพื่อรองรับยางประมาณ 2,000-3,000 คนที่อยู่ในเขตเท่านั้น โดยสหกรณ์ไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อหวังผลกำไร

201602051657543-20021028190457

ขณะที่ชาวบ้านหมู่ 1 หมู่ 2 ต.วังจันทร์ และหมู่ 4 ต.พลงตาเอี่ยม กว่า 100 คนเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอวังจันทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังจันทร์ นายปานเทพ สินธุสนธิชาติ ปลัดอาวุโสและเจ้าหน้าที่ อส.มาดูแลความสงบเรียบร้อย ด้านนายอำพล สังข์ขาว อายุ 45 ปี กล่าวว่า การตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังจันทร์ และพื้นที่หมู่ 4 ต.พลงตาเอี่ยม เขตติดต่อ โดยเฉพาะตั้งอยู่หลังวัดศรีโสภณ ชาวบ้านหมู่ 2 ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้เกรงจะได้รับผลกระทบมลภาวะสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นชาวบ้านขอคัดค้านโดยเด็ดขาด ให้ไปหาที่ตั้งโรงงานใหม่ เนื่องจากพื้นที่ไม่เหมาะสม ไม่ต้องมาพูดว่าไม่มีมลภาวะ ชาวบ้านไปดูโรงงานแปรรูปยางพาราแห่งหนึ่งใน เขต อ.แกลง ชาวบ้านได้รับผลกระทบทั้งร่างกายและสวนผลไม้ ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งยังไม่มีอะไรดีขึ้น ชาวบ้านต้องรับกรรมจนทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นชาวบ้านไม่ต้องการโรงงาน