ข้าราชการบำนาญแจ้งความสาว ตุ๋นเงิน 2 ล้าน หลอกลงทุนหุ้นออนไลน์
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันขบวนการหลอกลงทุนเงินหุ้นในเว็บไซต์ยังคงมีการระบาดอยู่ในหลายพื้นที่ และมีการดำเนินการเป็นขบวนการ ล่าสุด นายเจตน์ ชมบุญ อายุ 61 ปี ข้าราชการบำนาญ เชียงราย นำเอกสารหลักฐานการแชตสนทนาและการโอนเงิน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เบญพิชชา บัวผัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อเอาผิดกับหญิงสาวรายหนึ่งหลังถูกหลอกให้โอนเงินจนต้องสูญเสียเงินไปรวม 2 ล้านบาท
นายเจตน์ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้รู้จักกับหญิงคนหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยหญิงคนดังกล่าวใช้ชื่อว่า Nicha หลังจากได้แชตคุยกันอยู่ระยะหนึ่งจนเกิดความคุ้นเคย จึงพูดคุยสักถามอาชีพของกันและกัน ซึ่ง น.ส.นิชาแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นได้ลงทุนด้านเสื้อผ้าแต่ปัจจุบันเลิกแล้วและหันมาเล่นหุ้นทางออนไลน์โดยมีพี่สาวแนะนำให้ ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มชักชวนให้ตนลงทุนด้วย ซึ่งตนเองลงทุนครั้งแรก 100,000 บาท ในวันที่ 25 เมษายน 2564 โดยโอนเงินไปยังยิฮุ่ยเฟรดดิ้ง บัญชีของกันตินันท์ ขันสุวรรณา โดย น.ส.นิชาอ้างว่าเป็นเบอร์บัญชีของโบรกเกอร์ในตลาดหุ้น โดยในวันเดียวกันช่วงเย็นฝ่ายหญิงได้แจ้งตนว่า วันนี้พี่เจตน์ได้กำไรจากการลงทุน 21,600 บาท และได้โอนเงินผลกำไรมาให้
กระทั่งต่อมา วันที่ 26 เม.ย. ก็ได้แชตมาคุยชวนลงทุนอีก ตนเห็นว่าได้ผลกำไรที่งดงามจึงโอนเงินลงทุนไปยังบัญชีเดิมเป็นเงิน 5 แสนบาท น.ส.นิชาก็คุยกับตนว่าลงทุนขนาดนี้สมัครเป็น VIP ดีกว่าจะได้เข้าไปซื้อหุ้นได้เองโดยมีสิทธิประโยชน์หลายอย่างแต่ต้องลงทุนเพิ่ม ตนจึงตอบตกลงและโอนเงินไปลงทุนอีก 3 แสนบาท และ น.ส.นิชายืมไปลงทุนเพิ่มอีก 100,000 บาท โดยอ้างว่าเงินหมุนไม่ทัน รวมเป็นเงินลงทุนที่โอนไป 900,000 บาท และให้ น.ส.นิชา เป็นผู้ดำเนินการให้
โดยตนได้รับเอกสารที่อ้างว่าเป็นสัญญาที่ น.ส.นิชาส่งมาให้พร้อมกันนั้น น.ส.นิชาแจ้งว่าพี่เจตน์ (ตนเอง) ได้กำไรจากการลงทุนเป็นเงิน 600,000 บาท เท่ากับว่าตนมีเงินอยู่ 1,500,000 บาท ตนเห็นว่ามีกำไรแล้วจึงขอถอนกำไรออกมา แต่กลับได้คำตอบว่ายังไม่ได้ โดยทางฝ่ายหญิงอ้างว่าในหลักเกณฑ์จะถอนเงินได้ต้องมียอดถึง 2 ล้านบาทถึงจะถอนได้ และพยายามชักชวนลงทุนให้ครบ 2 ล้านบาท ในวันนั้นเห็นว่าค่ำแล้วจึงขอหยุดแชตคุยกัน
จนในวันที่ 27 เม.ย. น.ส.นิชายืนยันว่าต้องลงทุนให้ครบ 2 ล้านบาท จึงจะเล่นหุ้นต่อได้ และพูดจาหว่านล้อมว่าเมื่อวานตอนที่เจตน์ไม่ได้คุยกับเธอ เธอได้ซื้อเพิ่มให้และได้กำไรมาอีก 380,000 บาท ทำให้มียอดเงินทั้งหมด 1,880,000 บาท ซึ่งหากพี่เจตน์ต้องการถอนเงินคืนก็หาเงินมาเติมอีก 120,000 บาท ก็จะครบแล้ว แต่ตนไม่อยากลงทุนทั้งเกรงว่าโอนเงินไปให้อาจไม่ได้เงินคืน น.ส.นิชาจึงอ้างว่าจะคุยกับพี่สาวให้ วันที่ 28 พ.ค. น.ส.นิชาได้ส่งหลักฐานผ่านเฟซว่าตัวเองได้ลงทุนไปและได้ผลกำไรกลับมาจึงโอนเงินที่ยืมตนไป 100,000 บาท ไปในหุ้นให้ และส่งหลักฐานมาให้ดูว่าตอนนี้มีเงินในการซื้อหุ้นอยู่ 198,000 บาท ขาด 20,000 บาท จะครบ 2 ล้าน ซึ่งจะสามารถถอนเงินได้ ตนจึงโอนเงิน 20,000 บาทไปให้
แต่ทว่าเมื่อเงินครบ 2 ล้านตามข้อตกลงก็ยังไม่สามารถถอนได้อีก และเมื่อโทรไปหา น.ส.นิชาก็พยายามพูดบ่ายเบี่ยงและให้ตนลงทุนเพิ่ม ตนปฏิเสธเพราะคิดว่างานนี้โดนหลอกแน่ จากนั้น วันที่ 29 เม.ย. น.ส.นิชาก็แจ้งกับตนว่าได้คุยกับพี่สาวแล้วหากพี่เจตน์จะเล่นพี่สาวตนจะเติมให้ แต่ขอแบ่งผลกำไรให้ 30% จากยอดเงินทั้งหมด (เป็นเงิน 500,000 บาท) ตนเองไม่ยินยอมและขอต่อรองเหลือแค่ 150,000 บาท และหากต้องโอนเงินเติมเข้าไปขอเป็นบัญชีพี่สาวของ น.ส.นิชา เพราะถ้าโอนผ่านหน้าเว็บจะถอนเงินคืนไม่ได้
น.ส.นิชาก็แจ้งกลับมาว่า ทางพี่สาวขอเป็น 20% ตนบอกกลับไปว่าก็ได้ แต่ให้โอนเงินเข้าออกผ่านบัญชีพี่สาว น.ส.นิชา และจากนี้ตนจะไม่โอนเงินเติมเข้าไปให้ในการเล่นหุ้นและขอให้ทางพี่สาว น.ส.นิชา เป็นคนลงทุนเพิ่ม และนำเงินของตนที่ลงทุนไปออกมาคืนให้ตน ทางพี่สาวของ น.ส.นิชาก็ปฏิเสธ หลังจากนั้นตนก็ไม่คุยด้วย และนำเรื่องนี้พร้อมหอบหลักฐานแจ้งความเอาผิดกับขบวนการตุ๋นเงินตนและเชื่อว่าเป็นขบวนการใหญ่ ซึ่งคนที่ตกเป็นเหยื่อน่าจะมีอีกหลายราย
