รายแรกลำปาง ชายวัย 34 ดับหลังติดโควิด เผาร่างทันที จังหวัดแถลงมีโรคอ้วน พบปอดอักเสบรุนแรง
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัฐ นายแพทย์สาธารสุขจังหวัดลำปาง ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลลำปาง ว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ที่พักรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลลำปาง เสียชีวิต จำนวน 1 ราย ซึ่งถือว่าเป็นการเสียชีวิตรายแรกของ จ.ลำปาง ตั้งแต่มีการเฝ้าระวังมา
โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นชาย อายุ 34 ปี ชาว อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 176 ของ จ.ลำปาง โดยประวัติติดเชื้อจากเพื่อน ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันในกรุงเทพมหานคร และชายคนดังกล่าวมีประวัติเดินทางไปดูงานก่อสร้างที่บางแสน จ.ชลบุรี ร่วมกับเพื่อนคนดังกล่าวเมื่อกลางเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะทราบในภายหลังว่าเพื่อนป่วยติดเชื้อเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564
ทำให้ชายรายนี้ตัดสินใจขับรถส่วนตัวเดินทางกลับมายัง จ.ลำปาง คนเดียวเพื่อมาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลลำปาง เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2564 ซึ่งหลังทำการตรวจเสร็จสิ้นก็นั่งอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว ไม่ได้กลับบ้าน เพื่อรอผลตรวจ กระทั่งทางโรงพยาบาลยืนยันว่าติดเชื้อจึงเข้ารับการรักษาทันที ซึ่งหลังผ่านไปกว่า 10 วัน อาการทรุดลง เนื่องจากชายคนดังกล่าวมีน้ำหนักตัวมากถึง 140 กิโลกรัม และมีโรคประจำตัว จนอาการเข้าขั้นวิกฤต ทางทีมแพทย์ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่ก็เสียชีวิตลงในที่สุด
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้ออกใบแถลงการณ์แจงรายละเอียดกรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.ลำปาง เสียชีวิตรายแรก ว่าผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวคือ เป็นโรคอ้วน ก่อนเข้ารับการรักษามีน้ำหนักตัว 140 กิโลกรัม เดินทางมาขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลลำปาง เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2564 โดยผู้เสียชีวิตขับรถยนต์ส่วนตัว (ไม่ได้เข้าบ้าน) รับไว้ในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน อาการอยู่ในเกณฑ์ปกติ
จนกระทั่งวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 เริ่มมีไข้สูง อาการหอบเหนื่อย แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ ใช้เครื่องช่วยหายใจ สุดท้ายเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ด้วยโรคโควิด-19 ปอดอักเสบอย่างรุนแรง ญาติได้นำร่างไปฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันนี้ภายใต้แนวทางการจัดการศพด้วยโรคโควิด-19 ของกองบริหารสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ จ.ลำปาง มียอดสะสมผู้ติดเชื้อ จำนวน 242 ราย หายป่วยแล้ว 175 ราย อยู่ระหว่างรักษา 67 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย