น้องโวลต์ สาวกาฬสินธุ์ ขอบคุณธารน้ำใจไทยช่วยให้มีเงินเรียนแพทย์ มมส จะทำให้ดีที่สุด สานฝันให้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายพูนเพิ่ม พรไตรศักดิ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เข้าเยี่ยมครอบครัว นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ชาว ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน บ้านอยู่กลางสวนท้ายหมู่บ้าน โดยมี นายธนวุฒิ เหล่าบุบผา อายุ 53 ปี พ่อน้องโวลต์ และ นางมนสิชา อุดรบูรณ์ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาบ้านความรู้ ให้ข้อมูล

นายสมเจตน์ กล่าวว่า หลังจากได้ทราบข่าว น.ส.ณัฐวดี หรือน้องโวลต์ ศิษย์เก่าโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564 รุ่นที่ 16 ซึ่งจะเดินทางไปศึกษาต่อในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ โดยสื่อโซเชียลได้นำเสนอข่าว ระบุว่าน้องโวลต์เรียนดี ฐานะยากจน โดยนายธนวุฒิซึ่งเป็นบิดา มีอาชีพปลูกผักสวนครัวขาย ทั้งนี้ ขณะที่น้องโวลต์จะศึกษาต่อคณะแพทยศาสตร์ดังกล่าวจึงได้เชิญชวนผู้มีจิตอันเป็นกุศล เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา โดยมีการเปิดบัญชีรองรับ

นายสมเจตน์กล่าวว่า หลังจากสื่อโซเชียลเสนอข่าวออกไป นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้เข้ามาดูพื้นฐานครอบครัวน้องโวลต์ และสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งทราบจากน้องโวลต์ พ่อ และครูที่ปรึกษาว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนแพทย์นั้นค่อนข้างสูง ใช้เวลาศึกษา 6 ปี ปีการศึกษาละ 8 หมื่นบาท หากใช้เงินทุนส่วนตัวคงไม่เพียงพอ และคงจะไม่สามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้ จึงได้เปิดบัญชีรองรับการสนับสนุนดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามียอดบริจาคเข้ามาแล้วประมาณ 2,700,000 บาท และทราบว่าขณะนี้ได้ปิดรับการบริจาคแล้ว เพราะประเมินว่าเพียงพอต่อการที่จะใช้เป็นทุนสำหรับเรียนแพทย์ดังกล่าว

นายสมเจตน์กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเบิกจ่ายเงินที่ได้รับการโอนเข้ามาช่วยเหลือ จะได้ร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องปรึกษากัน เพื่อให้การจ่ายเงินที่ได้รับจากการบริจาคเกิดผลคุ้มค่า และสมเจตนารมณ์ของผู้มีจิตอันเป็นกุศลมากที่สุด

Advertisement

น.ส.ณัฐวดี หรือน้องโวลต์ กล่าวว่า ตนมีความสนใจที่จะเรียนหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตมานาน เพราะเห็นว่าเป็นอาชีพที่สามารถรักษาคนเจ็บป่วยให้หายเป็นปกติ ถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญ และคอยช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ยิ่งมาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลนั้น ยังไม่เพียงพอ จึงมีความตั้งใจที่จะเรียนให้จบหลักสูตร และนำความรู้ความสามารถมาประกอบวิชาชีพในการรักษาพยาบาลคนป่วยไข้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ บ้านเกิด

Advertisement

น.ส.ณัฐวดีกล่าวอีกว่า ตนทราบว่าทุนที่จะใช้ในการศึกษาหลักสูตรดังกล่าวสูงมาก แต่ก็มีความตั้งใจจริงที่จะศึกษาให้จบ โดยเบื้องต้นได้กู้เงิน กยศ.เพื่อเป็นทุนการศึกษา แต่คงไม่เพียงพอ อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ปกครองจึงได้ปรึกษากันเพื่อเปิดบัญชีขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาดังกล่าว ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ไม่เท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าธารน้ำใจที่สังคมโอนเข้ามาในบัญชีจำนวนมาก เกินความคาดหมาย จึงขอยุติการรับโอน และขอกราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก ซึ่งตนจะตั้งใจเรียน และทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเป็นหมอรักษาคนเจ็บป่วยตามความฝันที่ได้ตั้งใจไว้

ด้าน นายธนวุฒิ พ่อน้องโวลต์ กล่าวว่า ตนกับภรรยามีบุตรด้วยกัน 3 คน คนโตรับราชการทหาร น้องโวลต์เป็นคนกลาง และลูกสาวอีกคนกำลังจะขึ้นชั้น ม.5 น้องโวลต์เป็นเด็กดี ขยันเรียนมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งตนกับภรรยาประกอบอาชีพปลูกผักสวนครัว ส่งขายให้กับพ่อค้า แม่ค้า นำไปขายตลาดสด รายได้ก็พอหล่อเลี้ยงครอบครัวและส่งเสียบุตรเล่าเรียนหนังสือตามกำลัง

นายธนวุฒิกล่าวอีกว่า เพิ่งมาทราบว่าน้องโวลต์อยากเรียนแพทย์อย่างจริงจังเมื่อตอนเรียน ม.4 เพราะเห็นนำหนังสือสำหรับหลักสูตรนี้มาอ่านหลายเล่ม ซึ่งตนก็ให้กำลังใจ และพยายามกัดฟันสู้ เพื่อที่จะเป็นทุนการศึกษาให้ลูก นอกจากนี้ยังได้สอบถามหลายๆ คนเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ทุนการศึกษาในระหว่างเรียนแพทย์ว่ามีจำนวนสูงมาก เกินกำลังแรงที่พ่อแม่ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจะส่งเสียได้ ที่หนักใจคือค่าใช้จ่ายต่างๆระหว่างเรียน หากเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวน่าจะพอหาได้ พอครูที่ปรึกษาน้องโวลต์มาปรึกษา เพื่อหาทุนการศึกษาและส่งต่อน้องโวลต์สู่จุดหมาย และมีผู้บริจาคเข้ามาดังกล่าวจึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านมีจิตศรัทธา ช่วยเหลือน้องโวลต์และครอบครัวตนในครั้งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image